เมื่อ 5 ก.ค.67 จากกรณี ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมนายประยุทธ ประเทศเสนา หรือ มหาหมี เข้าพบหลวงปู่พุทธสาวก ภายในสำนักพุทธธรรม ย่านมีนบุรี หลังมีได้มีการเผยแพร่คลิปคำสอนที่อาจจะทำให้ผู้ที่ศึกษาพระพุทธศาสนาเกิดความเข้าใจผิดได้ หลังระบุว่า อนาคา พระอรหันสามารถกลับชาติมาเกิดได้
หลวงปู่พุทธสาวก เปิดเผยว่า หลักคำสอนดังกล่าวที่ถูกเผยแพร่ออกไปมีอยู่ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 32และ 33 ซึ่งตัวเองได้ศึกษาแล้วใช้ดุลพินิจตีความออกมา ก่อนจะนำมาเทศนาให้กับลูกศิษย์ ซึ่งยืนยันว่า คำสอนของตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีของเด็กชาย 8 ขวบ ที่อ้างตัวเป็นอนาคามีกลับชาติมาเกิด และอ้างตัวเป็นลูกพระพุทธเจ้า
ทนายอนันต์ชัย ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เปิดเผยว่า หากอ้างอิงตามคำสอนในพระไตรปิฎกจะพบว่า อนาคามีจะไม่กลับชาติมาเกิด ซึ่งการเผยแพร่หลักคำสอนที่บิดเบือนจาก พระไตรปิฎก อาจทำให้เกิดความสับสน และขัดกับหลักความเชื่อของชาวพุทธ
ส่วนตัวมองว่านี่ไม่ใช่พระสงฆ์ เพราะบิดเบือนตีความพระไตรปิฎก ตามความเข้าใจของตัวเอง ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินคดีกับหลวงปู่พุทธสาวกในข้อหานำข้อมูลเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
สำหรับหลวงปู่พุทธสาวก เริ่มบวชเป็นพระสงฆ์ เมื่อปี 2530 ที่วัดบำรุงรื่น เขตลาดกระบัง ต่อมาปี2532 ได้ส่งคืนใบสุทธิ แต่ยังไม่ได้ลาสิกขา และปัจจุบันสังกัดอยู่ที่สำนักพุทธธรรมและยังอยู่ในการปกครองคณะสงฆ์ไทย