จากกรณีที่เกิดเหตุ โชเฟอร์คลั่งขับรถบรรทุก 10 ล้อ ไล่ชน ตำรวจ สน.ท่าเรือ ถึงขนาดว่าได้ทำการยิงยางสกัดก็ยังเอาไม่หยุด ก่อนที่คนขับรถ 10 ล้อจะขับหนีทิ้งรถไว้ในพื้นที่ บางพลี ก่อน 10ล้อคลั่งกระโดดลงน้ำหลบหนี ซึ่งในวันเกิดเหตุมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย และมีผู้ที่ถูกชนขณะข้ามถนน อีก 1 ราย
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ผู้เสียชีวิตคือ นายประวิทย์ มากพิชัย อายุ 39 ปี วินรถจักรยานยนต์ สภาพขาหักผิดรูปและดวงตาเขียวช้ำทั้งสองดวง ซึ่ง นายประวิทย์ มากับ ผู้โดยสารคือ น.ส.พรพรรณ แจ่มศรี บาดเจ็บบริเวณ แขนขวาหัก นิ้วมือซ้ายหัก ปอดฉีก หัวกระแทรกพื้นยังไม่พ้นขีดอันตรายอาการโคม่า รักษาตัวที่ โรงพยาบาลรวมใจ รักษ์
พร้อมกันนี้ยังมีรายงานอีกว่า ผู้บาดเจ็บอีกหนึ่งรายคือ "ลุงแอ๊ด" ชายวัย 68 ปี ที่กำลังข้ามถนนตรงทางม้าลายหน้าแฟลตการท่าเรือ แยกกรมศุลกากร ทำให้ร่างกระเด็นไปไกลกว่า 4 เมตร จนอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งล่าสุด ผึ้ง หลานลุงแอ๊ด ยืนยันว่า เมื่อเวลา 07:20 น. ที่ผ่านมา "ลุงแอ๊ด" เสียชีวิตแล้ว ญาติอยู่ระหว่างติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา
ด้าน พ.ต.อ.ปณิธิ ผู้กำดับสถานตำรวจนครบาลท่าเรือ เปิดเผยว่า ได้นำตัว นายวัลลภ อายุ 43 ปี ผู้ก่อเหตุขับรถบรรทุกไล่ชนดะหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ออกจากโรงพยาบาล กลับมายังสถานีตำรวจนครบาลท่าเรือแล้ว
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุจริง ซึ่งช่วงเช้าวันเกิดเหตุ ได้เสพสารเสพติด และกังวลว่า จะมีคนมาทำร้าย จึงได้ก่อเหตุขึ้น สอดคล้องกับการที่ตำรวจส่งตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะเพิ่มเติม และพบมีสีม่วง จึงแจ้งข้อหา เสพสารเสพติด เพิ่มเติมจากที่ได้แจ้งข้อหาไปแล้ว รวม 5 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย ข้อหา ประมาทขับรถเฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ประมาทขับรถเฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย หลบหนีการจับกุม และ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ท่าเรือ คุมตัว นายวัลลภ ศรีสูงเนิน อายุ 43 ปีผู้ต้องหาโชเฟอร์ที่เป็นคนขับรถบรรทุก 10 ล้อไล่ชน ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมถึงทรัพย์สินของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่บนถนนพระราม 4 ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง
อย่างไรก็ตาม นายวัลลภ ผู้ก่อเหตุเปิดเผยเพียงสั้นๆ ระหว่างถูกคุมตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา โดยนายวัลลภก้มหน้า ตอบผู้สื่อข่าวด้วยเสียงสั่นเครือ บอกว่ายอมรับผิดทุกอย่าง และขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป ส่วนกรณีที่มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้สองราย นาย วัลลภ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ได้แต่นั่งก้มหน้าอยู่บนรถควบคุมผู้ต้องหาอย่างอิดโรย