ปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (FIFA World Cup Qatar 2022) ที่ประเทศกาตาร์ โดยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ การพบกันระหว่าง ทีมชาติอาร์เจนตินา พบ ทีมชาติฝรั่งเศส เริ่มทำการแข่งขัน 18 ธ.ค. 65 เวลา 22:00 น. ตามเวลาประเทศไทย ณ Lusail Stadium ประเทศกาตาร์
ในการแข่งขันนัดสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 รายชื่อผู้เล่นทีมอาร์เจนตินา คือ ดาเมียน มาร์ติเนซ (GK) , นาเวล โมลินา , กริสเตียน โรเมโร , นิโกลัส โอตาเมนดิ , นิโคลัส ตาเกลียฟิโก้ , อาเลกซิส มัก อัลลิสเตอร์ , เอนโซ เฟร์นันเดซ , โรดริโก เด เปาล์ (เลอันโดร ปาเรเดส น.102) , ลิโอเนล เมสซี่ , ฆูเลียน อัลบาเรซ (เลาตาโร มาร์ติเนซ น.102) และ อังเคิล ดิ มาเรีย (มาร์โกส อากุญญา น.64)
ส่วนทางด้านรายชื่อผู้เล่นทีมฝรั่งเศส คือ อูว์โก โยริส (GK) , คีเลียน เอ็มบัปเป้ , โอลีวีเย ฌีรู (มาร์คุส ตูราม น.41) , อ็องตวน กรีซมาน (กีงส์แล กอมาน น.71) , อุสมาเน่ เดมเบเล่ (ร็องดาล กอโล มัวนี น.41), โอเรลีแย็ง ชูอาเมนี , อาดรีแย็ง ราบีโย (ยุสซุฟ โฟฟาน่า น.96) , เตโอ เอร์นานเดซ (แอดุอาร์โด้ กามาแว็งก้า น.71) , ดาโยต์ อูปาเมกาโน , ราฟาแอล วาราน และ ฌูล กูนเด
ครึ่งแรก
รูปเกมของทัพฟ้าขาวดูเหมือนว่าจะทำได้ดีกว่า พวกเขามีโอกาสบุกอย่างดุดัน ก่อนที่จะมีโอกาสลองส่องให้ได้ลุ้นตั้งแต่ 4 นาทีแรก กระทั่งนาทีที่ 23 อาร์เจนติน่า มาได้ลูกจุดโทษจากการที่ อุสมาเน่ เดมเบเล่ ทำฟาวล์ อังเคิล ดิมาเรีย ในกรอบเขตโทษ และเป็น ลิโอเนล เมสซี่ ซัดเน้นๆ ไม่เหลือ ฟ้าขาวนำ 1 - 0
ฝรั่งเศสพยายามทวงประตูคืน แต่ยังติดๆ ขัดๆ พวกเขายังไม่มีโอกาสยิงแม้แต่หนเดียว ต่างจาก ฟ้าขาว ที่เมื่อได้ลูกแรกแล้วยิ่งมีความมั่นใจ ฉกบอลมาเล่นกับทีมได้อย่างแม่นยำ จนในที่สุด อาเลกซิส มัก อัลลิสเตอร์ แอสซิสต์ ให้ อังเคิล ดิมาเรีย ซัดตุงตาข่าย อาร์เจนตินานำห่าง 2 - 0 และจบแรกแรกไปด้วยสกอร์นี้
ภาพจาก FIFA World Cup
ครึ่งหลัง
อาร์เจนตินายังกระหายชัยชนะต่อเนื่อง เล่นได้ไม่ถึง 5 นาทีพวกเขามีโอกาสยิงถึง 2 ครั้ง แต่คราวนี้ อูว์โก โยริส ไม่ปล่อยให้พลาดอีกแล้ว ป้องกันไว้ได้ถึง 2 ครั้งเช่นกัน ทำให้ ทีมตราไก่ยังคงไม่เสียประตูไปมากกว่า 2 ลูก
ผ่านไป 1 ชั่วโมงในเกม ดูเหมือนว่า ฝรั่งเศสจะหาโอกาสทำประตูไม่เจอ ในขณะเดียวกัน อาร์เจนติน่า สร้างสรรค์โอกาสได้เรื่อยๆ ทั้งยังมีช็อตหวาดเสียวให้แฟนๆ ฟ้าขาวได้ลุ้นจนนั่งไม่ติด แต่สกอร์ยังไม่ขยับ อาร์เจนตินายังนำ 2 - 0
ภาพจาก FIFA World Cup
ต่อมานาทีที่ 79 นิโกลัส โอตาเมนดิ วิ่งไล่บี้กับ ร็องดาล กอโล มัวนี จนผู้เล่น ฝรั่งเศสล้มลงในกรอบเขตโทษ คราวนี้ผู้ตัดสินที่ 1 เป่าจุดโทษให้อย่างไม่ลังเล และเป็น คีเลียน เอ็มบัปเป้ ซัดตุงตาข่าย ฝรั่งไล่มาเป็น 1 - 2
เวลาผ่านไปเพียง 2 นาที ฝรั่งเศสได้ลูกฮึด แย่งบอลจาก เมสซี่ ได้ก่อนทำเกมกันอย่างสวยงาม มาร์คุส ตูราม ครอสสวยๆ ไปทางด้านซ้ายให้กับ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ซัดเข้ากรอบอีกครั้งตีเสมอ 2 - 2 กระชากถ้วยแชมป์ออกจากมืออาร์เจนติน่าให้กลับมาลุ้นกันต่อ
ภาพจาก FIFA World Cup
จนมาถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งสองฝ่ายต่างเล่นกันอย่างรัดกุม จนมานาทีที่ 104 ฝรั่งเศสเกือบพลาดท่าเมื่อ เลาตาโร มาร์ติเนซ มีโอกาสได้สับไก แต่ ดาโยต์ อูปาเมกาโน มาบล็อกได้ถึง 2 ครั้ง
และแฟนบอลอาร์เจนติน่าก็ได้เฮอีกครั้งเมื่อ เลาตาโร มาร์ติเนซ วิ่งทำเกมมาได้อย่างสวยก่อนจะยิงยัดเสาแรก ทว่าไปติดเซฟของ อูว์โก โยริส แต่ เมสซี่ ยังอยู่ถูกที่ ซ้ำจ่อๆ เข้าไป แม้จะโดนสกัดออกมาเป็น โกล์ไลน์ ยืนยันว่าเป็นประตู และ เลาตาโร มาร์ติเนซ ไม่ล้ำหน้า
แต่แล้วก็เกิดมีดราม่า เมื่อผู้ตัดสินหนึ่งเป่าให้จุดโทษแก่ฝรั่งเศส เมื่อกรรมการมองว่า เป็นแฮนด์บอล และเป็น คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่จัดการแฮททริกด้วยการซัดจุดโทษลูกนี้ส่งตุงตาข่ายอีกครั้ง เกมกลับมาเสมอกันที่ 3 - 3 ต้องตัดสินสุดท้ายที่การดวลจุดโทษ
สรุปผลการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดนี้ อาร์เจนตินา 3 (4) ชนะ ฝรั่งเศส 3 (2) จากการดวลจุดโทษตัดสินทำให้ อาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 ไปครองได้สำเร็จ และจะได้รับเงินรางวัลมากถึง 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 1,463,406,000 บาทเลยทีเดียว
ภาพจาก FIFA World Cup
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews