เป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่ถูกถกเถียงมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการแข่งขันมหกรรมกีฬา ซีเกมส์ครั้งที่ 32 ที่จัดมีการจัดขึ้นใน เดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งก่อนหน้านี้ ทาง กัมพูชา เจ้าภาพในการจัดแข่งขันในครั้งนี้ ได้เปลี่ยน มวยไทย เป็น กุม ขแมร์ แล้วยังมีประเด็นเรื่องเก็บค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ที่ทางเจ้าภาพได้เรียกเก็บกับประเทศไทยแพงกว่าชาติอื่นในอาเซียน
โดยก่อนหน้านี้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการซื้อลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดในครั้งนี้ว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างพูดคุยกับเจ้าภาพเพื่อหาทางออก ในส่วนเรื่องตัวเลขค่าลิขสิทธิ์ที่ถูกเรียกมานั้นคงไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ (800,000 เหรียญสหรัฐ) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวถือว่าสูงเกินไป เท่าที่ทราบตัวเลขค่าลิขสิทธิ์ในแต่ละประเทศไม่เท่ากัน และไม่ทราบหลักเกณฑ์ของทางกัมพูชา เนื่องจากไทยเราแทบจะเป็นประเทศที่แพงที่สุดจากการประเมิน แพงกว่าทางเวียดนามเสียอีก
งานนี้ทำเอาหลายคนเกิดความสงสัยว่าทำไม ประเทศไทย ต้องจ่ายแพงกว่าชาติอื่นในอาเซียน ทั้งๆที่ ซีเกมส์จะไม่มีการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด จะคิดเป็นค่าธรรมเนียม เช่น เช่น ซีเกมส์ 2021 ที่เวียดนาม คิดราคาเพียง 10,000 เหรียญ ประมาณ 350,000 บาท ส่วน ซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ คิดราคาเพียง 5,000 เหรียญ ประมาณ 175,000 บาท เท่านั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายวัธ จำเริญ เลขาธิการคณะกรรมการจัดซีเกมส์ (CAMSOC) เปิดเผยว่า "กัมพูชาไม่ใช่ตัวการที่จะกำหนดราคานี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเจรจาและมูลค่าทางการตลาด เราทำตามมาตรฐานทางซีเกมส์เสมอ ประเทศที่มีมูลค่าทางการตลาดที่ใหญ่กว่าก็จะต้องจ่ายราคาสูงกว่า มันสมเหตุสมผล กำหนดราคาที่ตายตัวไม่ได้ ผมหวังว่าสื่อรวมถึงประเทศอื่นๆ จะเข้าใจในเรื่องนี้"
ทั้งนี้การจัดแข่งขันซีเกมส์ 2022-23 จะถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม 2566 ซึ่งจะมีชิงชัยทั้งสิ้น 584 เหรียญทอง 38 ชนิดกีฬา โดยทีมชาติไทย ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 877 คน จากการประเมินคาดว่า ไทยจะได้ 164 เหรียญ มีเป้าหมายคือหวังเป็นเจ้าเหรียญทองในการแข่งขันครั้งนี้ให้ได้