การกรณี การชิงเหรียญทองซีเกมส์ : การแข่งขันฟุตบอลชายซีเกมส์ รอบชิงชนะเลิศ แข่งขันวันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2566 เวลา 19:30 น. ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินโดนีเซีย ณ โอลิมปิก สเตเดียม ประเทศกัมพูชา สรุปผลการแข่งขัน บอลซีเกมส์ ทีมชาติไทย 2 - 5 ทีมชาติอินโดนีเซีย นั้น ล่าสุด บอ.บู๋ บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร ผู้สื่อข่าวสายกีฬาชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า
1.เรื่องที่อยากจะบอก หลังทีมชาติไทยแพ้ อินโดนิเซีย ในนัดชิงเหรียญทองที่มีขนาดใหญ่ และทรงคุณค่ามากที่สุดเหรียญหนึ่งในมหกรรมกีฬาพื้นบ้านอย่าง ซีเกมส์
ถือเป็นนัดชิงชนะเลิศฟุตบอล ซีเกมส์ ที่มีอัตราความดราม่าเข้มข้น แถมมีครบทุกรสชาติมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ทั้ง โหด มัน ฮา
และ...เชี่ยอะไรเนี่ย !!!
ชอบที่สุดคือจังหวะที่โค้ชทีมอิเหนานึกว่าหมดเวลาแล้วแสดงความสะใจแบบเต็มประดา ก่อนถูกไทยตีเสมอในนาทีต่อมา 5555
แต่หักมุมกว่าตรงที่ อินโดฯ ขึ้นนำอีกครั้งอย่างรวดเร็วเพียงนาทีแรกๆ ของการต่อเวลา แล้วก็ตะลุมบอนกันซะอย่างนั้นจนพังไปทั้งแถบ !!!
2.ผิดหวังในฟอร์มการเล่นกับ 'แพสชั่น' ของทีมชาติไทยนะครับ
'คลาสส์' หรือ 'วรรณะทางลูกหนัง' ของเราสูงกว่าอยู่แล้ว ทว่าความแตกต่างระหว่าง ไทย กับ อินโดฯ คือเขาดันมีความมุ่งมั่นและทุ่มเท รวมถึงความหื่นกระหายในชัยชนะมากกว่าเราอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากจะเล่นผิดฟอร์ม เกมรับก็พลาดง่ายๆ แบบไม่น่าพลาด แถมควบคุมอารมณ์กันไม่อยู่อีกตะหาก
3.อิเหนาเขาเจ้าเล่ห์ตามสมญามาตั้งแต่ไหนแต่ไร
แล้วเราก็ดันไป 'เข้าทาง' เขาซะอย่างนั้น
บอลเป็นรอง เขาจึงเล่นแรงและเล่นหนัก
จังหวะควรเตะบอลคืน เขาฉวยโอกาสทำประตู
หลังจากขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2 เข้าใจว่าคงมีการยั่วยุและกวนส้นเท้ากันแถวข้างสนาม เราก็เลย 'กุนขแมร์' เข้าให้
ทันใด ผู้รักษาประตูทีมชาติไทยก็ปรี่จากหน้าปากประตูเป็นระยะทางเกือบ 50 เมตร มากุนขแมร์ใส่คู่แข่งจนถูกใบแดงไล่ออกแบบไม่ฉลาด
ถ้าไม่ทำตัวเองแบบนี้ ผมยังเชื่อว่าเราน่าจะยังพอหาทางไล่ตีเสมอได้อีก
4.คิดแล้วก็เสียดาย
เพราะตอนตีเสมอได้ในนาทีสุดท้ายในช่วงทดเจ็บ
โมเมนตั้ม มันเหวี่ยงมาอยู่กับเราแบบเต็มๆ
5.จึงพอจะสรุปได้ว่านัดนี้ ไทย 'แพ้' ทุกอย่างเลย