"เทนนิส พาณิภัค" วงศ์พัฒนกิจ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก ด้วยการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาครองได้ถึง 2 สมัยซ้อน ในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว และโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส จบเส้นทางนักกีฬาทีมชาติอย่างสมศักดิ์ศรี หลังประกาศเลิกเล่นทีมชาติ
"เทนนิส พาณิภัค" กลายเป็นนักกีฬาประวัติศาสตร์ของไทย ที่ได้เหรียญโอลิมปิกเกมส์ 3 สมัย รีโอ 2016 ได้เหรียญทองแดง,ได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว และเหรียญทองล่าสุดโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ได้เหรียญทองเป็นการฉลองวันเกิดครบ 27 ปี ในวันที่ 8 ส.ค.67 พอดี
โดยน้องเทนนิส ประกาศเลิกเล่นทีมชาติ พร้อมเผยว่าสภาพร่างกายของตัวเองตอนนี้ว่าร่างกายนี้พังไปหมดแล้ว "ร่างกายตอนนี้พังไปหมดแล้ว อย่างที่ทุกคนเห็นมันเป็นกีฬาต่อสู้ คือเอ็นขาดไปแล้ว แล้วก็ลูกสะบ้าพังหมดแล้ว แล้วสะโพกก็หลวม สมมุติว่าถ้าฉีกขาเยอะๆเลยองศาไป หนูก็กลับมาหุบขาไม่ได้ ต้องใช้เวลาเป็นสิบนาทีกว่าจะหุบขาได้ มันเสียสละทั้งร่างกายนี้ไปหมดแล้ว แต่หนูก็คิดว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย (โอลิมปิก) ที่หนูจะยอมแลก"
และเทนนิส ก็ทำได้สำเร็จอย่างสวยงาม ในเส้นทางของเธอ สร้างความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ นอกจากโอลิมปิกเกมส์แล้ว ยังได้ 1 แชมป์ยูธโอลิมปิก ปี 2014, 3 แชมป์กรังด์ปรีซ์ไฟนัล,9 แชมป์กรังด์ปรีซ์, 2 แชมป์โลก, 2 แชมป์แกรนด์สแลม, 2 แชมป์เอเชียนเกมส์, 2 แชมป์เอเชีย, 3 แชมป์กีฬามหาวิทยาลัยโลก
เงินรางวัลที่ เทนนิส จะได้รับ เบื้องต้นมีดังนี้
กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NDSF) 10 ล้านบาท (ถ้ารับแบบผ่อนจ่ายได้ 12 ล้านบาท) เงินเดือนจากคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เดือนละ 12,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี รวมเป็นเงิน 2.88 ล้านบาท
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) มอบเงินรางวัลอัดฉีดเหรียญทอง 1 ล้านบาท รวมทั้งหมดตอนนี้รับ 15.88 ล้านบาท