1.เลือกประกันที่มีแผนคุ้มครองด้านสุขภาพการรักษา
ค่ารักษาพยาบาลของสุนัขก็อาจจะมีราคาค่ารักษาที่สูง การเลือกประกันที่มีแผนคุ้มครองด้านสุขภาพการรักษาจะเป็นการช่วยแบ่งเบาเงินในกระเป๋าเวลาจ่ายในการรักษาแต่ละครั้ง ความคุ้มครองจะแบ่งเป็นค่ารักษาและค่าห้อง ค่ารักษานั้นจะสามารถเบิกเคลมได้ 80%-100% ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์และแผนประกันที่เลือก
2.ประกันที่ชดเชยในกรณีที่เสียชีวิต
กรณีที่น้องต้องจากไปกะทันหัน การเลือกประกันที่ชดเชยในกรณีที่เสียชีวิตจะมีการจ่ายค่าชดเชยให้ตามวงเงิน และยังมีชดเชยในกรณีเสียชีวิตระหว่างช่วงการรักษา การเลือกแผนประกันที่มีการจ่ายค่าชดเชยในกรณีนี้ ผู้ที่ทำประกันจะต้องมีการตรวจสอบเงื่อนไขก่อน อาจจะต้องมีการตรวจสุขภาพก่อนว่าเคยเป็นโรคร้ายแรงหรือไม่
3.ประกันที่คุ้มครองอุบัติเหตุในสัตว์เลี้ยง
ธรรมชาติสัตว์มีความชอบสำรวจมีความซุกซน อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้หากไม่มีเจ้าของคอยดูแล การเลือกประกันชนิดนี้ จะช่วยในการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษา เมื่อต้องพักรักษาตัวในคลินิกและโรงพยาบาลสัตว์ รวมไปถึง ICU จะจ่ายตามแผนเบี้ยประกันที่เลือกไว้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ทำประกัน
4.ประกันแผนความคุ้มครองที่เหมาะสมกับงบประมาณ
เรื่องงบก็เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจ เนื่องจากต้องจ่ายต่อเนื่องระยะยาว การคำนวณความเหมาะสมจากสภาพการเงินจึงสำคัญเพราะสิทธิ์ในการคุ้มครองจะได้ไม่ขาดตอน เพราะจะทำให้เราและสัตว์เลี้ยงเสียผลประโยชน์ในส่วนนี้