ข่าว

heading-ข่าว

ธ.ก.ส. ชู 6 ยุทธศาสตร์ เดินหน้าธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน

19 ก.พ. 2568 | 11:08 น.
ธ.ก.ส. ชู 6 ยุทธศาสตร์ เดินหน้าธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน

ธ.ก.ส. เปิด 6 ยุทธศาสตร์ เดินหน้าธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน มุ่งมั่นดำเนินงานตามพันธกิจภายใต้กรอบความยั่งยืนที่ครอบคลุมถึงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อย่างมีธรรมาภิบาล

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์ที่เป็นสภาพแวดล้อมภายในและภายนอก รวมถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง (Trends) ที่อาจส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของ ธ.ก.ส. พบว่า มีประเด็นโอกาสทางธุรกิจที่ธนาคารสามารถเร่งดำเนินการเพื่อรับโอกาสในปี 2568 ดังนี้

 

ธ.ก.ส. ชู 6 ยุทธศาสตร์ เดินหน้าธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

1. แนวโน้มการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัล และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี กระตุ้นให้ธนาคารต้องเร่งพัฒนาบริการทางการเงิน และช่องทางการให้บริการด้านดิจิทัลที่ครอบคลุม สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเดิมและเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ได้ โดยจะต้องเร่งพัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญสามารถใช้เทคโนโลยีในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องปรับปรุงขั้นตอนและกระบวนการทำงานเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน รวมถึงจะต้องมีผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า สามารถสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจได้


2. ทิศทางการพัฒนาที่มุ่งเน้นความยั่งยืนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม (Environment Social Governance : ESG) ทำให้ธนาคารให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการทางการเงิน ทำหน้าที่เป็นแหล่งเงินทุนที่สนับสนุนธุรกิจที่ต้องการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน อาทิ ผลิตภัณฑ์ Green Finance เป็นต้น เพื่อตอบสนองเป้าหมายการเป็นธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน รวมถึงตอบโจทย์ของภาครัฐในการมุ่งสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ

 

3. การดำเนินนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนภาคการเกษตร ผ่าน ธ.ก.ส. จากการที่ธนาคารเป็นกลไกที่สำคัญในการตอบสนองนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนและช่วยเหลือเกษตรกร และสามารถนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้ถึงระดับชุมชน ทำให้ธนาคารมีความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน สามารถรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ และเพิ่มโอกาสในการต่อยอดธุรกิจของธนาคารได้

 

4. แนวโน้มความต้องการความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ที่เพิ่มสูงขึ้น จากแนวโน้มการเติบโตของอาหารเพื่อสุขภาพ เทรนด์การรักสุขภาพของแต่ละช่วงวัย เป็นโอกาสของธนาคารในการสนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาภาคการเกษตรรองรับธุรกิจเกษตรที่มีมูลค่าสูง รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรลูกค้า

นอกจากนี้ แนวโน้มการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะแนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวิถีชุมชน ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้บริการทางการเงิน จึงเป็นโอกาสของธนาคารในการเข้าถึงชุมชนเพื่อเสนอการให้บริการทางการเงินร่วมกับการให้แหล่งเงินทุน เพื่อรักษาฐานลูกค้าและสร้างส่วนแบ่งการตลาด


ดังนั้น ธ.ก.ส. มีการทบทวนทิศทางการดำเนินงาน โดยคำนึงถึงความเท่าทันในการตอบสนองต่อสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไป และตอบสนองต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ


โดยยังคงกำหนดวิสัยทัศน์ในการเป็นธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน และมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามพันธกิจภายใต้กรอบความยั่งยืนที่ครอบคลุมถึงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อย่างมีธรรมาภิบาล ทั้งนี้ ได้กำหนดกรอบทิศทางการดำเนินงานของ ธ.ก.ส. ในปีบัญชี 2568 ภายใต้ 6 ยุทธศาสตร์ ดังนี้

 

  • ยุทธศาสตร์ที่ 1 เพิ่มเสถียรภาพทางการเงินที่มั่นคง มุ่งเน้นการหาสินเชื่อกลุ่มใหม่ที่มีความมั่นคง (Secured Port) ควบคู่กับการสนับสนุนสินเชื่อภาคการเกษตรที่ยังคงเป็นธุรกิจหลักของธนาคาร

 

  • ยุทธศาสตร์ที่ 2 เพิ่มการบริหารจัดการคุณภาพสินเชื่ออย่างยั่งยืน มุ่งเน้นการบริหารจัดการหนี้ถึงกำหนดชำระ และบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพโดยคำนึงถึงเครื่องมือและมาตรการที่มีความเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีความแตกต่างกัน ควบคู่กับการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในกระบวนการบริหารจัดการหนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

 

  • ยุทธศาสตร์ที่ 3 เพิ่มศักยภาพการแข่งขันลูกค้าสู่การสร้างมูลค่าการเกษตร มุ่งเน้นที่การฟื้นฟูพัฒนาเกษตรกรกลุ่มเปราะบางให้มีศักยภาพมากขึ้นเพื่อให้สามารถกลับมาทำธุรกิจกับธนาคารได้ ควบคู่กับการยกระดับขีดความสามารถลูกค้าเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เป็น Smart Farmer และผู้ประกอบการภาคการเกษตร รวมถึงมีการยกระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชนกองทุนหมู่บ้าน และกลุ่มเกษตรกร

 

  • ยุทธศาสตร์ที่ 4 เพิ่มขีดความสามารถองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม จากแนวโน้มการเติบโตของการเงินดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ธนาคารจำเป็นต้องมุ่งเน้นการยกระดับบริการที่เป็น Digital Service ให้มีความครอบคลุมสามารถแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ได้

 

  • ยุทธศาสตร์ที่ 5 เพิ่มขีดความสามารถบุคลากรและกระบวนการทำงานที่สำคัญ โดยแนวโน้มความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ธนาคารจำเป็นต้องมุ่งเน้นการพัฒนาและเสริมสร้างขีดความสามารถการทำงานของบุคลากรที่มีขีดความสามารถรองรับอนาคต ควบคู่กับการยกระดับกระบวนการทำงานที่สำคัญโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งในส่วนของกระบวนบริหารจัดการข้อมูล และกระบวนการติดตามกำกับตรวจสอบที่มีการบูรณาการ เพื่อให้การบริหารจัดการองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

  • ยุทธศาสตร์ที่ 6 ส่งเสริมการบริหารจัดการองค์กรและชุมชน ภายใต้ ESG เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและความหลากหลายทางชีวภาพ


"จากแนวโน้มทิศทางการพัฒนาที่มุ่งเน้นความยั่งยืนของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทำให้ธนาคารจำเป็นต้องมุ่งเน้นการขับเคลื่อนการดำเนินงานองค์กรภายใต้กรอบ ESG และ การบริหารจัดการกระบวนการภายในของธนาคาร และชุมชน เพื่อสนับสนุนเป้าหมายในการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ รวมถึงต้องมีผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่สนับสนุนด้านความยั่งยืน"


นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลในยุคที่การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีส่งผลกระทบต่อทุกมิติของชีวิต จึงวางรากฐานให้เกษตรกรไทยสามารถปรับตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล โดยมุ่งพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย เพื่อสนับสนุนการเป็นธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน ผ่านการขับเคลื่อนและการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลที่สำคัญ คือ


1. AI and Data-Driven : การรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบ และรวบรวมข้อมูลที่มีคุณภาพจากหลากหลายแหล่ง เช่น ข้อมูลด้านการเกษตร ข้อมูลสภาพอากาศ แนวโน้มราคาสินค้าเกษตร และข้อมูลตลาดและเศรษฐกิจ เพื่อช่วยคาดการณ์แนวโน้มการบริโภคและการเปลี่ยนแปลงของตลาด สามารถนำมาใช้วิเคราะห์และสร้างคุณค่า รวมทั้งสามารถประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยนำข้อมูลมาใช้ร่วมกับ AI ในการพยากรณ์แนวโน้มราคาสินค้าเกษตร ประเมินความเสี่ยงของลูกค้า และวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ

 

2. Cloud Computing : นำเทคโนโลยีคลาวด์มาใช้อย่างเหมาะสม ไม่เพียงช่วยลดต้นทุน แต่ยังช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรม และสร้างโอกาสในการพัฒนาภาคการเกษตรไทยในระยะยาว

 

3. Digital Self-Service and Literacy : การตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล Self-Service ที่ต้องการบริการที่เข้าถึงได้ง่ายและประหยัดเวลา เพื่อสร้างความสะดวกสบาย เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และลดภาระการพึ่งพาการติดต่อที่สาขา ธ.ก.ส. จึงพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ครบวงจร เช่น BAAC-Mobile ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบยอดเงิน โอนเงิน ชำระหนี้ และทำธุรกรรมอื่นๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา อีกทั้งยังมีการติดตั้งเครื่องบริการธุรกรรมอัตโนมัติ (ATM/CDM/PAM) รวมถึงมีตู้ชำระเงินกู้ เพื่อการบริหารจัดการหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยดำเนินการควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ลูกค้ามีทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล


6 มาตรการสนับสนุนนโยบายรัฐ ให้เงินทุนดอกเบี้ยต่ำ-แก้หนี้เกษตรกร


นายฉัตรชัยเปิดเผยว่า สำหรับในปี 2568 ธนาคารมีนโยบายเพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาล ผ่านการดำเนินโครงการสินเชื่อนโยบายรัฐ โดยสนับสนุนเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำให้แก่ภาคการเกษตรของพืชเศรษฐกิจหลักสำคัญ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง ให้แก่ เกษตรกรรายย่อย กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร ซึ่งครอบคลุมทั้งภาคการผลิต การรวบรวม การแปรรูป และการตลาด


โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกร และช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็ง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่สถาบันเกษตรกร สรุปดังนี้


1. โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี สนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร เก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉางของตนเองระหว่างรอการขายผลิตผล ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และเมื่อราคาข้าวเปลือกที่เก็บรักษาไว้มีราคาสูงขึ้นจนเป็นที่พอใจ ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถไถ่ถอนนำข้าวเปลือกออกมาจำหน่ายได้รับส่วนต่างของราคาที่สูงขึ้น


2. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมผลผลิต (ข้าวเปลือก / ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ / มันสำปะหลัง) และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกรสนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรนำไปรวบรวม รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรสมาชิก และเกษตรกรทั่วไป เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรม รวมทั้งสร้างรายได้แก่สถาบันเกษตรกรในการรวบรวมรับซื้อผลผลิตนำมาเก็บไว้เพื่อจำหน่วยต่อ หรือแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม


3. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก (ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ / มันสำปะหลัง) สนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรใช้เป็นเงินทุนในการพัฒนาการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถเพิ่มผลิตภาพการผลิต (Productivity) และเพิ่มคุณภาพของผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ


4. โครงการชะลอการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง สนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนระหว่างรอการเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่ผลผลิตเสียหายจากภัยธรรมชาติ หรือราคาผลผลิตตกต่ำ โดยเกษตรกรสามารถชะลอการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังออกไปได้อีก 6 เดือน เพื่อให้ผลผลิตฟื้นตัว คุณภาพดีขึ้น หรือขายได้ราคาสูงขึ้น


ในส่วนของมาตรการแก้หนี้สำหรับลูกหนี้ที่มีสัญญาหนี้ค้างชำระเป็น NPL มี 2 มาตรการ ดังนี้


1. มาตรการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ เพื่อขยายโอกาสและเสริมสร้างศักยภาพลูกหนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภาระทางการเงินของลูกหนี้ โดยการลดภาระการชำระหนี้และลดภาระการจ่ายดอกเบี้ยบางส่วน และเพื่อจูงใจให้ลูกหนี้ที่ยังคงมีศักยภาพ มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ดีขึ้น


2. มาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เรื้อรัง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภาระทางการเงินของลูกหนี้ประสบปัญหาหนี้เรื้อรัง (Persistent Debt) โดยการลดภาระการชำระหนี้และลดภาระการจ่ายดอกเบี้ยบางส่วน และเพื่อจูงใจให้ลูกหนี้ที่ยังคงมีศักยภาพ มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ดีขึ้น

 

 

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

ชนวนเหตุแท้จริง "หนุ่มใหญ่" รมควันตัวเองเสียชีวิตในรถ

ชนวนเหตุแท้จริง "หนุ่มใหญ่" รมควันตัวเองเสียชีวิตในรถ

เครื่องดื่มที่สาว 40+ ต้องมีติดตู้เย็น เพราะมีประโยชน์

เครื่องดื่มที่สาว 40+ ต้องมีติดตู้เย็น เพราะมีประโยชน์

หนุ่มใหญ่รมควันตัวเองดับคารถ ทิ้งข้อความสั่งลาจุกอก

หนุ่มใหญ่รมควันตัวเองดับคารถ ทิ้งข้อความสั่งลาจุกอก

"หวยฮานอยวันนี้" 21/3/68  ผลฮานอยวันนี้ หวยฮานอยวันนี้ออกอะไร

"หวยฮานอยวันนี้" 21/3/68 ผลฮานอยวันนี้ หวยฮานอยวันนี้ออกอะไร

เปิดทะเบียนรถเคลื่อนร่าง "แม่สีดา พัวพิมล" ทำพิธีที่วัดลาดพร้าว

เปิดทะเบียนรถเคลื่อนร่าง "แม่สีดา พัวพิมล" ทำพิธีที่วัดลาดพร้าว