ประชาสัมพันธ์

heading-ประชาสัมพันธ์

"พาณิชย์" แนะไทยลุยตลาดผู้สูงอายุไต้หวัน ชี้เป้าขายอาหาร บริการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์

15 เม.ย. 2568 | 15:35 น.
"พาณิชย์" แนะไทยลุยตลาดผู้สูงอายุไต้หวัน ชี้เป้าขายอาหาร บริการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์

"พาณิชย์" แนะไทยลุยตลาดผู้สูงอายุไต้หวัน ชี้เป้าขายอาหาร บริการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สำรวจความพร้อมการรับมือสังคมผู้สูงอายุของไต้หวัน พบรัฐบาลให้ความสำคัญ และล่าสุดอนุมัติโครงการ Long-term care 3.0 รองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด ชี้เป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ที่จะขายสินค้าอาหาร ไลฟ์สไตล์ บริการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และเข้าไปลงทุนธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ

\"พาณิชย์\" แนะไทยลุยตลาดผู้สูงอายุไต้หวัน ชี้เป้าขายอาหาร บริการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวกัลยา ลีวงศ์เจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา ส่วนที่ 2 ถึงการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไต้หวัน ผ่านโครงการ Long-term care 3.0 รองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด และโอกาสในการขยายตลาดส่งออกสินค้าและบริการของไทย ทั้งสินค้าอาหาร สินค้าไลฟ์สไตล์ รวมไปจนถึง Medical Tourism เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้สูงอายุ
ชาวไต้หวัน

 

ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์รายงานข้อมูลว่า ไต้หวันก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด” ในปี 2568 ซึ่งหมายความว่าหนึ่งในห้าของประชากรจะมีอายุมากกว่า 65 ปี ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลไต้หวันได้เตรียมความพร้อมรับมือการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมาโดยตลอด และดำเนินการตามโครงการดูและระยะยาว 2.0 มาตั้งแต่ปี 2559 โดยใช้งบประมาณรวมประมาณ 2,810 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ไต้หวันสามารถขยายจำนวนสถานดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจาก 720 แห่งเมื่อ 9 ปีก่อน เป็น 15,000 แห่ง ในปัจจุบัน

\"พาณิชย์\" แนะไทยลุยตลาดผู้สูงอายุไต้หวัน ชี้เป้าขายอาหาร บริการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 รัฐบาลไต้หวันได้อนุมัติและเตรียมดำเนินโครงการดูแลระยะยาว 3.0 ซึ่งเป็นการต่อยอดจากโครงการ 2.0 ที่ประสบความสำเร็จ โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงระบบดูแลผู้สูงอายุและผู้ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีแนวทางหลัก 5 ประการ ได้แก่

 

1.เพิ่มการเข้าถึงบริการ ตั้งเป้าหมายให้ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงสถานดูแลได้ภายในเวลาขับรถไม่เกิน 10 นาทีจากทุกครัวเรือน

 

2.ลดระยะเวลารอคอยของผู้ป่วยนอกให้เหลือเพียงไม่เกิน 0 วัน และเชื่อมโยงบริการดูแลระยะยาวกับระบบโรงพยาบาล ซึ่งจะทำให้ การจัดเตรียมพื้นที่สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการรับบริการดูแลระยะยาวจะต้องเสร็จเรียบร้อยก่อนวันที่ผู้ป่วยจะออกจากโรงพยาบาล

 

3.ขยายกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมกลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โดยกลุ่มที่มีสิทธิ์รับบริการรวมถึง ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ชาวพื้นเมืองที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพ และกลุ่มคนหนุ่มสาว ที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง

 

4.บูรณาการระบบการดูแล โดยเชื่อมโยงบริการทางการแพทย์และการดูแลระยะยาว เช่น การแพทย์ทางไกล และการดูแลแบบประคับประคอง และจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดผ่านแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูล เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างระบบกาแพทย์และระบบดูแลระยะยาว

 

5.นำ AI และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการดูแล

\"พาณิชย์\" แนะไทยลุยตลาดผู้สูงอายุไต้หวัน ชี้เป้าขายอาหาร บริการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์

โดยโครงการนี้ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริการที่เหมาะสมกับลักษณะเฉพาะของแต่ละชุมชน รวมถึงชนเผ่าพื้นเมืองและพื้นที่ห่างไกล อีกทั้งยังมีการขยายขีดความสามารถในการให้บริการของศูนย์ดูแลในช่วงเวลากลางวัน เพิ่มบริการฟื้นฟูสมรรถภาพ และเสริมสร้างศูนย์บริการขนาดเล็กที่ให้บริการหลายฟังก์ชัน โดยรวมถึงการจัดหาบริการช่วงเวลากลางคืนและเพิ่มจำนวนเตียงสำหรับที่พักชั่วคราว 

 

นอกจากนี้ จะนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการของชุมชน โดยจะส่งเสริมการใช้ AI เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) และอุปกรณ์ช่วยเหลือทางเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการดูแล และพัฒนาการสนับสนุนผู้ดูแลในครอบครัว ซึ่งโครงการดูแลระยะยาว 3.0 ถือเป็นแผนงานสำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและผู้ที่ต้องการการดูแลในไต้หวัน โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการอย่างสมบูรณ์ในปี 2571

\"พาณิชย์\" แนะไทยลุยตลาดผู้สูงอายุไต้หวัน ชี้เป้าขายอาหาร บริการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์

“การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุถือเป็นความท้าทายสำหรับรัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะในเอเชีย ซึ่งหมายรวมถึงประเทศไทยที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว การพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มนี้จึงถือเป็นโอกาสในการทำตลาดที่ใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ตลาดไต้หวันถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับสินค้าและบริการของไทย ทั้งสินค้าอาหาร สินค้าไลฟ์สไตล์ รวมไปจนถึง Medical Tourism และในส่วนของการขยายสถานดูแลสำหรับผู้สูงอายุ ตามเป้าหมายของรัฐบาลไต้หวันนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการไทยที่เกี่ยวข้องในการเข้ามาลงทุนในไต้หวัน โดยที่ผ่านมา เคยมีตัวอย่างความสำเร็จของศูนย์ดูแลจากญี่ปุ่น คือ กลุ่ม Genki Group ซึ่งมาลงทุนจัดตั้งสถานดูแลในเมืองไถหนาน ทางใต้ของเกาะไต้หวัน ทั้งในส่วนของ Day Care Center , Long Stay Center , สถานดูแลเต็มรูปแบบ และร้านขายสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ เมื่อปี 2555 ส่งผลให้ปัจจุบันนี้ บริษัทสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไต้หวัน”นางสาวสุนันทากล่าว

 

สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

ดวงเฮงรับสงกรานต์ ลุงป้าขายผักบ่อวิน ถูกรางวัลที่ 1 รับโชค 12 ล้าน

ดวงเฮงรับสงกรานต์ ลุงป้าขายผักบ่อวิน ถูกรางวัลที่ 1 รับโชค 12 ล้าน

"แพรรี่"  ตั้งคำถาม เตือนสติ ปมแผ่นดินไหวจังหวัด "ก.ไก่"

"แพรรี่" ตั้งคำถาม เตือนสติ ปมแผ่นดินไหวจังหวัด "ก.ไก่"

เผยสาเหตุ อาฉี ตลกดังเสียชีวิตกะทันหัน ปิดตำนาน ตลกเสียงหล่อ

เผยสาเหตุ อาฉี ตลกดังเสียชีวิตกะทันหัน ปิดตำนาน ตลกเสียงหล่อ

แฟนเพลงเฮลั่น "แม่ผ่องศรี" ให้โชคเต็มๆ รับทรัพย์ถ้วนหน้า

แฟนเพลงเฮลั่น "แม่ผ่องศรี" ให้โชคเต็มๆ รับทรัพย์ถ้วนหน้า

"ติ๊ก ชิโร่" เผยอาการล่าสุด หลังเข้า รพ.ตรวจหัวใจ แฟนๆ ส่งกำลังใจ

"ติ๊ก ชิโร่" เผยอาการล่าสุด หลังเข้า รพ.ตรวจหัวใจ แฟนๆ ส่งกำลังใจ