Carfreedom เผย 5 รถยุโรปหล่อตลอดกาล ใช้งบ 100,000 บาท
1. BMW 3 Series (E30)
รถยอดนิยมในอดีตที่เคยมีราคามือสองร่วงสุดๆ ไม่ถึง 1 แสนบาท แต่ปัจจุบันหากรถยังอยู่ในสภาพดี อาจมีราคาเฉียด 2 แสนบาทเลยทีเดียว ยิ่งถ้าเป็นตัวถังแบบ Coupe ด้วยแล้วล่ะก็ หาราคาต่ำกว่า 3 แสนบาทแทบไม่มี แสดงให้เห็นถึงความนิยมของรถรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี
2. BMW 3 Series (E36)
BMW E36 เป็นรถคอมแพ็กทางฝั่งยุโรปอีกรุ่นที่ปัจจุบันมีราคาจำหน่ายเข้าถึงได้ง่าย เริ่มต้นไม่ถึง 1 แสนบาท มีอุปกรณ์ทันสมัยกว่า E30 แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นรถขับหลังแท้ๆ เน้นขับสนุก จนหลายคนเรียกว่าใช้เป็นรถคันแรก
3.BMW 5 Series (E34)
ยังเท่ไม่พอแล้วล่ะก็ ลองขยับมาเป็นซีรี่ย์ 5 รหัสตัวถัง E34 ก็ย่อมได้ เพราะปัจจุบันราคามือสองของโฉมนี้มักจะถูกกว่า BMW E36 ด้วยซ้ำ แต่ก็แลกมาด้วยห้องโดยสารที่นั่งสบายกว่าโดยเฉพาะเบาะหลัง ซึ่งปัจจุบันโฉมจมูกเล็ก (กระจังหน้าไตคู่แบบเล็ก) ที่เป็นตัวก่อนไมเนอร์เชนจ์ประมาณรุ่นปี 1991 - 1994 กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
4.Mercedes-Benz 190E (W201)
เมอร์เซเดส-เบนซ์ 190อี หรือฉายาว่า “เบบี้เบนซ์” ยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลายตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยรูปลักษณ์ที่เข้าขั้นคลาสสิก สะท้อนถึงความเป็นรถเบนซ์แท้ๆ ภายใต้เรือนร่างกะทัดรัด มีอะไหล่ให้เลือกเพียบ เข้าอู่เบนซ์ที่ไหนก็ซ่อมได้หมด แถมตลาดมือสองยังมีสภาพดีให้เลือกเพียบ ยิ่งถ้าได้สเปกหายากประเภทรถนำเข้าจากอังกฤษ มีออปชันแปลกๆ อย่างเบาะผ้า, หลังคาซันรูฟ อีกด้วย
5.Mercedes-Benz C-Class (W202)
Mercedes-Benz 190E มันเก่าเกินไปสำหรับคุณแล้วล่ะก็ ยังมีอีกทางเลือกที่น่าสนใจนั่นคือ C-Class W202 ที่มีรูปโฉมทันสมัยกว่า แถมยังคล่องตัวกว่า E-Class W124 เป็นไหนๆ สามารถหารถสภาพดีได้ไม่ยาก แถมมีสเปกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น C180, C200, C220 ที่ใช้เครื่องยนต์บล็อก 4 สูบ ไปจนถึง C240 และ C280 ที่ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ ปัจจุบันสามารถหาได้ตั้งแต่ราคาไม่ถึง 1 แสนบาท ไปจนถึง 2 แสนบาท
ทั้งนี้ การซื้อรถยุโรปมือสองนั้น ก่อนซื้อต้องเข้าไปฝังตัวในคลับ เพราะว่า รถมือ 2 มันเป็นอะไรที่เสี่ยง อาจจะมีปัญหาหมกๆ ไว้ ถ้ายอมเสี่ยงตรงนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร บางคนซื้อมาก็สามารถจัดการกับปัญหาได้และก็ใช้จนคุ้มค่า และที่สำคัญควรศึกษาอู่ที่ซ่อมเฉพาะทาง หรือ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ แล้วคุณจะได้รถที่ดีเเน่นอนครับ!