ลักษณะของอะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีผิวขรุขระ เปลือกหนา มีสีเขียวเข้ม เมื่อสุกจัดจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงหรือดำ เนื้ออะโวคาโดจะมีลักษณะเป็นครีม อ่อนนุ่ม
ประโยชน์ของอะโวคาโด
- ช่วยลดน้ำหนัก
การรับประทานอะโวคาโดจึงถือเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง แต่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลในปริมาณที่ต่ำ
- โปรตีนสูง
โดยโปรตีนในอะโวคาโดนั้นเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ช่วยในการขับถ่ายได้ดีจึงไม่ทำให้ท้องผูกจึงเกี่ยวโยงกับการช่วยลดน้ำหนักอีกด้วย
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
หากรับประทานอะโวคาโดเป็นประจำก็จะช่วยลดไขมันที่ไม่ดี และคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งช่วยให้ไม่เกิดไขมันสะสมในเส้นเลือด สาเหตุที่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ และหัวใจตีบ
- ช่วยลดน้ำตาล
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ จึงถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์กับผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วยการรับประทานเพื่อช่วยควบคุมและลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ป้องกันโรคปากนกกระจอกและอาการเหน็บชา
มีวิตามินบี ที่ช่วยลดการอักเสบให้กับร่างกายทั้งภายในและภายนอก การรับประทานอะโวคาโดเป็นประจำจึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคปากนกกระจอกหรือมีอาการเหน็บชา
- บำรุงสายตา
มีสารที่เรียกว่าลูทีนและซีแซนทีน ที่มีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อม
- ต้านสารอนุมูลอิสระ
มีสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นตัวช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายไม่ให้ถูกทำลายจากมลพิษรอบตัวจากภายในและภายนอก จึงทำให้ช่วยลดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งได้อีกด้วย
- ป้องกันหวัด
อะโวคาโดยังมีวิตามินซี ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ไม่เจ็บป่วยเป็นหวัดได้ง่าย และยังช่วยลดอาการของเลือดออกตามไรฟันได้ด้วย
- บำรุงผิวและเส้นผม
อะโวคาโดมีไขมันดีที่สามารถสกัดออกมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและผิวพรรณได้ โดยมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผมและผิวได้ดี
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรทานอะโวคาโดเกินวันละ 1 ลูก เพราะเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง