โลหิตจาง ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Anemia เป็นภาวะที่ร่างกายมีเม็ดเลือดแดงลดลง ส่งผลให้มีอาการซีด เวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย ร่างกายอ่อนเพลีย เป็นลมหมดสติบ่อยครั้ง หรือหากอาการโลหิตจางรุนแรงก็เสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวได้เลย สาเหตุที่พบบ่อยมาจากการขาดธาตุเหล็ก อย่างไรก็ตาม หากป่วยด้วยโรคโลหิตจางแล้ว เราก็สามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ด้วยการรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม ซึ่งกระปุกดอทคอมก็มีข้อมูลโลหิตจางห้ามกินอะไร หรือเลือดจางต้องกินอะไรบำรุงมาฝาก
โลหิตจางห้ามกินอะไรบ้าง
ในกรณีมีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก อาหารบางอย่างอาจส่งผลเสียต่อร่างกายของผู้ป่วยโรคโลหิตจางได้ จึงควรเลี่ยงหรืองดการรับประทานในบางช่วงเวลา เช่น
1.ชา กาแฟ
เครื่องดื่มเหล่านี้มีสารแทนนินและคาเฟอีนที่จะไปขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กของร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยได้รับธาตุเหล็กจากอาหารลดน้อยลงได้ ดังนั้น ทางที่ดีอย่าดื่มชา กาแฟ หลังจากรับประทานอาหารธาตุเหล็กสูง เช่น ผักใบเขียว เครื่องใน เป็นต้น
2.ผลิตภัณฑ์จากนม
ทั้งนม โยเกิร์ต ชีส และผลิตภัณฑ์จากนมที่ยังมีแคลเซียมในนมหลงเหลืออยู่ ไม่ควรกินพร้อมกันกับอาหารบำรุงเลือด หรือยาบำรุงเลือด เพราะแคลเซียมในนมทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ลดลง
โลหิตจางห้ามกินอะไรบ้าง
3.เต้าหู้ นมถั่วเหลือง
นมถั่วเหลืองจะไม่มีแคลเซียมจากนมวัวมาผสม ทว่าผู้ป่วยโรคโลหิตจางก็ควรต้องระวัง เพราะไฟเตทในนมถั่วเหลืองและเต้าหู้ก็เป็นสารที่ขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกาย
4.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีโทษต่อสุขภาพมากมาย คนที่แข็งแรงดีกินแล้วยังเสี่ยงอาการป่วยไข้ ดังนั้น คนที่มีโรคประจำตัวหรือมีอาการป่วยเรื้อรังบางอย่างอยู่ก็ยิ่งควรห่างเหล้า เบียร์ ไวน์ สาเก
โลหิตจางควรกินอะไรบ้าง
1.เนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเนื้อแดงจากหมู วัว แกะ ก็ล้วนอุดมไปด้วยโปรตีนและธาตุเหล็กที่จะช่วยบำรุงเลือดให้ผู้ป่วยโลหิตจางได้
2.เครื่องในสัตว์ ผู้ป่วยโรคโลหิตจางสามารถเลือกรับประทานเครื่องในสัตว์ได้ทั้งตับหมู ตับไก่ เลือดหมู เลือดไก่
3.อาหารทะเล อาหารทะเลอย่างปลาทูน่า กุ้ง หอยแครง หอยแมลงภู่ ก็จัดเป็นอาหารบำรุงเลือดเพราะมีธาตุเหล็กสูงเช่นกัน
4.ไข่แดง สามารถรับประทานไข่แดงเป็นประจำ เพื่อช่วยเติมธาตุเหล็กให้ร่างกายได้
5.ผักใบเขียว ผักใบเขียวมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน และส่วนมากจะมีธาตุเหล็กอยู่พอสมควร