โรคหัวใจใครที่มีความเสี่ยง
ปัจจัยที่มีต่อพันธุกรรม : ความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจอาจมีการถ่ายทอดผ่านพันธุกรรม หากมีคนในครอบครัวที่เคยเป็นโรคหัวใจ ก็อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคหัวใจได้เช่นกัน
สภาพแวดล้อมและพฤติกรรม : การรับประทานอาหารที่มีปริมาณไขมันสูง น้ำตาลมาก และเกลือสูง สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์มาก ไม่ออกกำลังกาย และมีน้ำหนักเกินตัว เป็นต้น เป็นปัจจัยที่เสี่ยงที่จะทำให้คนมีโอกาสเป็นโรคหัวใจ
โรคร่วมอื่น ๆ : คนที่มีโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคไขมันในเลือดสูง มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเป็นโรคหัวใจ
อายุ : ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อคุณมีอายุมากขึ้น ผู้สูงอายุมักมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจสูงขึ้น
เพศ : ผู้ชายมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจสูง กว่าผู้หญิง แต่ผู้หญิงหลายคนก็สามารถมีโรคหัวใจได้
ความเครียดและภาวะสุขภาพจิต : ภาวะเครียดที่เกิดจากการที่ความเครียดทางจิตใจ อาจมีผลต่อสุขภาพหัวใจ
สภาพของร่างกาย : การที่มีน้ำหนักตัวเกิน ความอ้วน อาจทำให้เสี่ยงเพิ่มขึ้นกว่าคนที่มีร่างกายสมส่วน
อาการเริ่มต้นของโรคหัวใจเกิดจากอะไร
อาการเจ็บแน่นหน้าอก : อาจมีความรู้สึกเจ็บหน้าอกหรืออักเสบในบริเวณทรวงอก อาจมีลักษณะความรุนแรงที่แตกต่างกันไป เช่น เจ็บปวดหนักมาก หรือความรู้สึกเสียวแสบขณะแรงกดที่ทรวงอก
หายใจเหนื่อยหอบ : อาจมีอาการหายใจเหนื่อยหอบหรือหายใจไม่อิ่มเอิบ เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นกับกิจกรรมที่ต้องใช้ความพยายาม
อาการเหงื่อออกมาก : อาจมีการเหงื่อออกมากขึ้นโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน
ความรู้สึกหนาว หรือมีหนาวบ่อย : ผู้ที่เริ่มมีปัญหาเรื่องหัวใจอาจมีอาการรู้สึกหนาว หรือความรู้สึกเหมือนหนาวบ่อยครั้ง
อาการเมื่อยล้า : ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจอาจมีความเมื่อยล้ามากขึ้นโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนหลังจากกิจกรรมที่มักทำได้ดีก่อนหน้า
อาการหงุดหงิด หรือความเครียด : อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์เช่น อาการหงุดหงิด หรือความเครียดโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน
สาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ
เสี่ยงสูงของไขมันในเลือด : การมีระดับไขมันสูงในเลือด (ไขมันในเลือดเสี่ยงสูงหรือไขมันแอลดีแอลสูง) สามารถสะสมในผนังหลอดเลือดและทำให้เกิดการอุดตันที่ส่วนสำคัญของหลอดเลือด ซึ่งอาจทำให้เกิดหลอดเลือดซึ่งสำคัญในการนำเลือดไปสู่หัวใจ ซึ่งเรียกว่า "การตีบตัน" (atherosclerosis) ได้
ความดันโลหิตสูง : ความดันโลหิตสูงสามารถทำให้หัวใจต้องเพิ่มความพยายามในการสูบเลือดจากหลอดเลือดที่มีความดันสูง นอกจากนี้ยังส่งผลต่อความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด
สุขภาพของหลอดเลือด : หลอดเลือดที่ดีและมีความยืดหยุ่นมีความสามารถในการรับมือกับการเสียเสียงของเลือดที่ไหลผ่าน หากหลอดเลือดเสื่อมสภาพ เช่น จากการตีบตัน มันอาจทำให้เกิดการอุดตันและสะสมตับอื่น ๆ ที่สามารถเกิดโรคหัวใจได้
สุขภาพระบบการทำงานของหัวใจ : ความผิดปกติในโครงสร้างหรือการทำงานของหัวใจ อาจเกิดจากการติดเชื้อ โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือปัจจัยที่รบกวนระบบไหลเวียนของหัวใจ
สุขภาพทางจิตใจ : ความเครียด ภาวะซึมเศร้า และความโกรธก็สามารถส่งผลทำให้เกิดความเสี่ยงในระบบหัวใจและการยืดหยุ่นของหลอดเลือด
พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ : พฤติกรรมอย่างเช่น การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก และขาดการออกกำลังกาย สามารถเสริมเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
ปัจจัยทางพันธุกรรม : ความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจอาจสืบทอดมาจากครอบครัว หากคุณมีคนในครอบครัวที่เคยเป็นโรคหัวใจในอายุเยาว์ คุณอาจมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
โรคหัวใจควรพบแพทย์เมื่อใด
อาการเจ็บแน่นหน้าอก : หากมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก บวมหรือรู้สึกหนักบริเวณทรวงอก ควรพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาจเป็นเครื่องชี้วัดของปัญหาหัวใจร้ายแรง เช่น หัวใจขาดเลือดหรือเส้นเลือดหลอดเลือดหัวใจอุดตัน.
อาการหายใจเหนื่อย : หากมีอาการหายใจเหนื่อย หอบเหนื่อย หรือรู้สึกหายใจไม่ออกเป็นปกติ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจสอบว่ามีปัญหาทางหัวใจหรือไม่
อาการเจ็บแน่นหน้าแข้งหรือแขน : อาการเจ็บแน่นหรือปวดบริเวณแข้งหรือแขนซ้ายอาจเป็นได้แบบมีหรือไม่มีความสัมพันธ์กับการใช้กำลังงาน อาจเป็นเครื่องชี้วัดของการตีบวกหัวใจ
อาการหน้ามืด หน้าขาวงอน หรืออาเจียน : การมีอาการหน้ามืด หน้าขาวงอน หรืออาเจียนอย่างเฉียบพลันอาจเป็นอาการของการระคายเคืองหัวใจ
อาการเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลีย : หากคุณมีอาการเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลียแม้ในกิจวัตรประจำวัน ควรพบแพทย์เพื่อตรวจสอบสุขภาพหัวใจและระบบหลอดเลือด
ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย : ต้องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารหรือการออกกำลังกายเพื่อดูแลหัวใจและสุขภาพทั่วไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและแผนการดูแลสุขภาพ
การดูเเลตัวเองให้ห่างไกลโรคหัวใจ
ออกกำลังกายเป็นประจำ : การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างระบบหัวใจและหลอดเลือดเป็นสิ่งที่สำคัญ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวันหรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ หรือเล่นกีฬาต่าง ๆ
รักษาน้ำหนักตัวที่เหมาะสม : การรักษาน้ำหนักตัวที่เหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ หากคุณมีน้ำหนักเกินมาก การลดน้ำหนักอาจช่วยลดความดันเลือดและระดับไขมันในเลือด
รับประทานอาหารที่เหมาะสม : ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อหัวใจ เช่น ผัก ผลไม้ และอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัว เช่น ไข่ไก่ ปลา ถั่ว และเมล็ดพืช
ลดการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง : การลดการบริโภคเกลือจะช่วยลดความดันโลหิต ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจ
หลีกเลี่ยงสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ : สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
การจัดการกับความเครียด : การมีความเครียดอยู่เป็นเวลานานสามารถส่งผลกระทบต่อระบบหัวใจ การปฏิบัติตัวในสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความเครียด หรือการเรียนรู้เทคนิคการผ่อนคลายอาจช่วยลดความเครียด
ตรวจสุขภาพประจำ : การตรวจสุขภาพประจำจะช่วยตรวจพบปัญหาหรือความผิดปกติทางสุขภาพก่อนที่จะเกิดอันตรายต่อหัวใจ
รับประทานยาตามคำสั่งของแพทย์ : หากคุณมีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ คำแนะนำจากแพทย์และการรับประทานยาตามคำสั่งเป็นสิ่งสำคัญ
นอนพักผ่อนเพียงพอ : การนอนพักผ่อนเพียงพอช่วยลดความเครียด ปรับสมดุลของฮอร์โมน และรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในสภาพที่ดี
ที่มา : โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ