“นกแต้วแล้วท้องดำ” ปัจจุบันถูกจัดว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์ มีชื่อสามัญว่า Gurney's pitta และชื่อวิทยาศาสตร์ว่า 𝘏𝘺𝘥𝘳𝘰𝘳𝘯𝘪𝘴 𝘨𝘶𝘳𝘯𝘦𝘺𝘪 เป็นนกที่มีถิ่นอาศัยเฉพาะในพื้นที่ป่าที่ราบต่ำระดับความสูงไม่เกิน 200 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ทั่วโลกพบกระจายเพียง 2 แห่ง คือ ประเทศไทย บริเวณป่าที่ราบต่ำเขานอจู้จี้ และผืนป่า Taninthayi ฝั่งตะวันออกของประเทศเมียนมา ด้วยความเฉพาะเจาะจงกับพื้นที่อาศัยที่มีลักษณะเป็นป่าที่ราบต่ำ ทําให้ถิ่นอาศัยที่สําคัญของนกแต้วแล้วท้องดําในอดีตถูกบุกรุกเปลี่ยนแปลงเป็นพื้นที่เกษตรกรรมปลูกพืชเศรษฐกิจโดยเฉพาะ ปาล์มน้ำมัน และยางพารา เป็นสาเหตุให้นกแต้วแล้วท้องดํามีจํานวนประชากรลดน้อยลง อย่างรวดเร็ว
ซึ่ง The IUCN Red List of Threatened Species ได้จัดสถานภาพนกแต้วแล้วท้องดํา เป็นสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (Critically Endangered) ซึ่งถือได้ว่าแนวโน้มประชากรนกแต้วแล้วท้องดําในธรรมชาติกําลังเผชิญหน้ากับการสูญพันธุ์ทุกวินาที
ประเทศไทยมีความพยายามในการคุ้มครองนกแต้วแล้วท้องดำมาตั้งแต่ปี 2530 ด้วยการเริ่มต้นประกาศพื้นที่อยู่อาศัยเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาประ-บางคราม และประกาศให้นกชนิดนี้เป็นสัตว์ป่าสงวน ในปี 2535 จนในปี 2536 ยกสถานะเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาประ-บางคราม เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเพื่อคุ้มครองประชากรนกแต้วแล้วท้องดำในที่สุด
ขอบคุณ : สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า, กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า