จากกรณีคุณพ่อท่านหนึ่งเกิดประสบอุบัติเหตุขณะขับรถไปต่างจังหวัด ทำให้รถอัดก็อปปี้ลูกสาววัย 11 ขวบ และลูกสาววัย 3 ขวบ ลูกสาวคนโตขาขาดในที่เกิดเหตุ กู้ภัยนำตัวส่งรพ.เพชรบุรี รพ.บอกว่าขอให้มีการตรวจโควิด-19 และต้องรอผลก่อนทำการรักษา รอจนเที่ยงอีกวัน สุดท้ายน้องวัย 11 ขวบเสียชีวิต จนพ่อคาใจว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น
ล่าสุดวันที่ 7 มิ.ย. 64 คุณเอ็ม พ่อของน้องวัย 11 ขวบ ที่เสียชีวิตได้มาเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 4 มิ.ย. ผ่านรายการโหนกระแส โดยมีหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เป็นพิธีกรดำเนินรายการข่าว โดยคุณเอ็มเผยว่าขณะกำลังเดินทางจาก ชลบุรี ไป ระนอง เกิดวูบหลับทำให้รถเสียหลักชนเสาไฟฟ้าลูกสาววัย 11 ปี มีสติ ไม่ร้องไห้ แล้วหันมาบอกตนว่าขาขาด เมื่อถึง รพ. เจ้าหน้าที่ได้ทำแผล ให้เลือด ให้น้ำเกลือ เป็นการเบื้องต้น แต่ยังไม่ได้ทำการผ่าตัดเพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อน
ด้านคุณทรายผู้อยู่ในเหตุการณ์และ ผู้ติดต่อประสานกู้ภัยฯ เล่าว่าขณะตนขี่จักรยานยนต์อยู่บนถนน เห็นรถคันดังกล่าวประสบอุบัติเหตุ จึงรีบไปช่วยเหลือ และพาไป รพ. และเห็นเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่บอกให้รอผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 จริง
ทางฝั่ง นพ.สุระ เจตน์วาที แพทย์เวชศาสตร์การบิน และแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน เผยว่าน้อง 11 ขวบ นั้นที่ ถือว่าอยู่ในกลุ่มสีแดง ขาขาด แพทย์ได้ให้การ รักษาเบื้องต้น ให้น้ำเกลือ ห้ามเลือด ตามขั้นตอนของผู้ป่วยฉุกเฉิน
ต่อมานพ.เอกโชติ พีรธรรมานนท์ รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.พระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ หลัง “หนุ่ม กรรชัย” ผู้ดำเนินรายการ ตั้งคำถามว่า ผู้ป่วยขาขาดนั้นอาการหนักกว่าถูกยิงหรือไม่ เหตุใดถึงต้องรอผลตรวจโควิด-19 ออกมาก่อนรักษา แพทย์สามารถสวมชุด PPE รักษาไปก่อนได้หรือไม่ โดย นพ.เอกโชติ ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงนี้ จ.เพชรบุรี มีการระบาดของโควิด-19 เคสดังกล่าวแพทย์ได้เร่งให้การรักษา ทำความสะอาดแผล ห้ามเลือด ทำให้คนไข้ชะลอการเสียเลือดไว้ก่อนแล้ว แต่ต้องรอผลตรวจโควิดเพราะ ทาง รพ. สร้างระบบเพื่อเซฟหน่วยงานให้ปลอดภัย มิเช่นนั้นจะกระทบต่อผู้ป่วยทั้งจังหวัด
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ทิ้งท้ายว่า ถ้าเป็นกรณีฉุกเฉินจะดูคนไข้เป็นหลัก การส่งโควิด-19 ไปตรวจสามารถทำได้ ทำคู่ขนานกันได้ เรื่องการสื่อสารระหว่าง แพทย์และคนไข้ สำคัญที่สุดแพทย์ต้องรายงานผลให้กับญาติผู้ป่วยเป็นระยะๆ ระหว่างรอผลตรวจก็ต้องดูผู้ป่วยเป็นระยะเช่นกัน