ได้กล่าวถึงกรณีที่สภากาชาดไทย เจรจาซื้อวัคซีนชนิด mRNA ยี่ห้อโมเดอร์นา จำนวน 1 ล้านโดส เพื่อฉีดให้คนไทยฟรี ปรากฏว่า นายภาษิต กล่าวว่า "โมเดอร์นา เราก็พอจะรู้เรื่องประสิทธิภาพ อย่างนี้ครับ เราพยายามจะติดต่อคุณเตช บุนนาค (เลขาธิการสภากาชาดไทย) แต่ไม่สามารถติดต่อได้"
"เราได้โทรศัพท์ไปหาหมอบุญ ประธานกรรมการ เครือโรงพยาบาลธนบุรี จะคุยเรื่องหมอบุญที่จะไปเซ็นสัญญากับไฟเซอร์ ก็เลยได้ถามเรื่องนี้ไปด้วยว่าหมอบุญได้ทราบไหม สภากาชาดไทยจะเอาโมเดอร์นาเข้ามา 1 ล้านโดส หมอบุญซึ่งเป็นประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บอกว่า ของสภากาชาดไทย ที่เอาเข้ามา นั่นคือ โควตาในเครือของโรงพยาบาลธนบุรี ที่จองไว้กับองค์การเภสัชกรรม"
ไก่ ภาษิต กล่าวย้ำอีกครั้งว่า "พูดง่ายๆ คือ ตัดโควตาของโรงพยาบาลธนบุรีของผมเอง หมอบุญเอง ไปให้สภากาชาดไทย คือ ถ้าฟังอย่างนี้ตีความได้ว่า สภากาชาดไทยก็ไปซื้อต่อจากทางหมอบุญหรือเปล่า และก้อนนี้ 1 ล้านโดส มาฉีดให้ฟรี"
หลังจากนั้นทัวร์ลงทันที หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า นายภาษิต พยายามตีความว่า สภากาชาดซื้อต่อจากหมอบุญหรือไม่ และเสนอข่าวทั้งที่ไม่มีข้อเท็จจริงได้หรือ
ต่อมาทางด้านเฟซบุ๊ก Warat Karuchit ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสารของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ระบุว่า
"มีคนถามผมมาเยอะ เรื่องหมอบุญ แบ่งโควตาโมเดอร์นาให้สภากาชาดจริงหรือไม่ ให้หน่วยงานทางการชี้แจงเองดีกว่านะครับ
แต่ผมถามช่อง 3 (ระบุชื่อเลยเพราะเป็นสื่อที่นำข้อมูลมาเผยแพร่) คุณไม่คิดจะตรวจสอบข้อมูลอะไรก่อนออกเหรอครับ ไม่ไปถามสภากาชาด ถามองค์การเภสัชกรรม ใครพูดอะไรก็เอามาออกได้เลย แบบนี้เหรอครับ ทั้งที่ก็เห็นอยู่ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับผู้ให้ข้อมูล?
สื่อมืออาชีพ ต้องตั้งข้อสงสัยและตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนออกไหมครับ หรือว่าเชื่อทุกอย่างได้เลย เรื่องยิ่งละเอียดอ่อนยิ่งต้องระมัดระวัง นี่คือ บทพิสูจน์ความเป็นมืออาชีพของสื่อ ถ้าคุณลงข้อมูลวันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอีกอย่าง ถ้าผิดขึ้นมา ใครรับผิดชอบครับ?"