เรียกได้ว่าประเทศไทยเรานั้น มีเรื่องราวลึกลับมากมายทั้งในอดีตและปัจจุบัน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องผี เชื่อว่าหลายๆคนคงจะอยากรู้เหมือนว่าในไทยแล้ว วัดใดบ้างที่ขึ้นชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับไม่น้อย และอาจจะขนลุกกันอย่างแน่นอน วันนี้จะพาไปชมกับ 5 วัดไทย ที่ขึ้นชื่อเรื่องผีดุที่สุดในประเทศไทย
1.วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ ฉะเชิงเทรา
ตำนานวิญญาณเฮี้ยน ณ.ลานประหารวัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ เดิมชื่อว่าวัดเมือง จ.ฉะเชิงเทรา การประหารชีวิตอั้งยี่ ที่วัดเมืองเมื่อปี 2391 สมัยรัชกาลที่ 3 ครั้งนั้นเป็นข่าวดังไปทั่วหัวเมืองต่างๆ บ้างก็รู้สึกสาสมใจ บ้างก็รู้สึกสงสารและเกิดทุกขเวทนา ศพอั้งยี่แต่ละศพเป็นผีหัวขาด และนำถูกไปฝังแบบไร้ญาติ ไม่มีใครกล้านำศพไปทำพิธีให้ถูกต้องตามประเพณี เพราะเกรงว่าอาจจะถูกประหารตามไปด้วย ข้อหาสมรู้ร่วมคิด จึงจำต้องปล่อยให้พ่อ แม่ ลูก และพี่น้องของตัวเองถูกตัดหัวไปต่อหน้าต่อตา
2.วัดสุวรรณาราม บางกอกน้อย
วัดสุวรรณาราม เดิมเรียกว่าวัดทอง สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยกรุงธนบุรี เป็นสถานที่ที่พระเจ้าตากสิน ทรงมีพระราชดำรัส ให้นำเฉลยศึกพม่าจากค่ายบางแก้ว ไปประหารชีวิต วัดสุวรรณาราม ริมคลองบางกอกน้อย ก็มีเรื่องผีๆอยู่มากเช่นกัน วัดสุวรรณเป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา และเมื่อมาถึงสมัยกรุงธนบุรี
3.วัดพลับพลาชัย กรุงเทพฯ
อีกที่ต่อมาคือ วัดพลับพลาชัย ย่านป้อมปรามศัตรูพ่าย มีวัดวัดหนึ่ง ชื่อวัดพลับพลาชัย ตั้งอยู่หลังวัดเทพศิรินทร์ ภายในมีโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในบริเวณวัด แต่เดิมวัดพลับพลาชัย มีชื่อเรียกว่าวัดโคก หรือวัดโคกอีแร้ง เดิมที่วัดนี้เป็นที่ประหารนักโทษ เหมือนกับวัดสระเกศ ศพที่ประหารแล้วจะถูกส่งออกมาด้านหลังวัดสระเกศ บริเวณนั้นจึงถูกเรียกว่าประตูผี อย่างที่บอกนั้นแหละ พอประหารเสร็จ บางครั้งทางวัดก็จะปล่อยให้อีแร้งมากินศพที่ถูกประหาร บริเวณนั้นจึงมีอีแร้งชุกชุม ชาวบ้านจึงเรียกกันติดปากว่าวัดโคกอีแร้ง ต่อมาบ้านเมืองเจริญขึ้นมีการสร้างถนน ไม่ก็ขุดถนนแถวหน้าวัดพลับพลาชัย เพื่อซ่อมแซ่ม แต่เมื่อขุดลงไปทีไร ก็เจอแต่โครงกระดูกอยู่ใต้ดินเต็มไปหมดทุกครา
4.วัดปทุมคงคา
สถานที่เฮี้ยนสุดท้ายคือสัมพันธวงศ์ วัดปทุมคงคา เป็นวัดโบราณสร้างตั้งแต่สมัยอยุธยา ต่อมาถูกทิ้งจนเป็นวัดร้างที่ห่างไกลผู้คน ดูวังเวงและน่ากลัว ในเวลาต่อมาได้ใช้เป็นลานประหารบรรดาชาติพระวงศ์หลายๆพระองค์ เรื่องเล่าของวัดนี้ ยังมีเรื่องของต้นอโศกผีสิง ซึ่งเมื่อก่อนในวัดมีต้นอโศกอายุร้อยปี ตั้งตระหง่านอยู่ในวัด ชาวบ้านย่านนั้นเล่าว่า มีวิญญาณมาปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยๆในหลายรูปแบบ แล้วมักจะหายวับเข้าไปในต้นอโศก เรียกว่าเฮี้ยนจนชาวบ้านหวาดกลัวไม่กล้าเข้าวัด จึงถูกตัดโค่นทิ้งในปี พ.ศ.2495 เรื่องราวทั้งหมดจึงเงียบลงได้ จะว่าเป็นความสบายใจ คลายระแวงของผู้คน ข่าวลือน่ากลัวนั้น จึงยุติลงก็น่าจะใช่
5.วัดสระเกศ
วัดสระเกศ เป็นอีกที่ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี หากย้อนไปในสมัยรัชกาลที่ 1 ศูนย์รวมของชุมชน บ้านเรือนผู้คนจะอยู่ภายในกำแพงเมือง ส่วนด้านนอกกำแพงจะมีการทำนาหรือเกษตรกรเป็นส่วนใหญ่ ภายในกำแพงเมืองนี้ ถือธรรมเนียมกันว่า หากมีคนเสียชีวิตจะต้องขนศพออกไปเผาด้านนอกกำแพงเมือง และทางออกที่ใช้ขนศพออกไปก็คือ ประตูทิศตะวันออกของเมือง ซึ่งเมื่อระบุตามตำแหน่งก็คือ บริเวณใกล้สี่แยกสำราญราชในปัจจุบันนั้นเอง ประตูนี้ถูกเรียกขานกันว่าประตูผี โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดโรคระบาดในพระนคร และเมืองใกล้เคียงในสมัยรัชกาลที่ 2 ด้วยโรคห่าหรืออหิวาตกโรคระบาดไปทั่วทำให้มีคนตายหลายหมื่นคน ศพจำนวนมากถูกลำเรียงผ่านประตูผี ไปยังวัดสระเกศซึ่งอยู่ติดๆกันเรียกว่า ว่ากันว่ามีศพมากมายกองพะเนินวัดไม่สามารถเผาหรือฝังได้ทัน จึงต้องขุดหลุมขนาดใหญ่แล้วฝังลงไปในหลุมเดียวกันคราวละมากๆ แต่จำนวนศพที่มากเกินไป ทำให้ฝูงแร้งแห่กันมาจิกกินซากศพกันเป็นอาหาร