จากกรณีมีรายงานว่า คนละครึ่งเฟส 5 อัพเดทล่าสุด "สภาพัฒน์" ได้พร้อมรับข้อเสนอ หลังมีเสียงเรียกร้องจากหลายประชาชนเเละหลายๆฝ่าย โดยเฉพาะภาคเอกชน ทั้งนี้รายละเอียดของโครงการคนละครึ่งเฟส5 จะต้องมาประเมินเเละพิจารณากันอีกครั้งว่าจะเป็นในรูปเเบบใด โดยอาจจะเปิดรับสมัคร แบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ไม่ใช่เป็นการทั่วไปเหมือนครั้งก่อน คนละครึ่งเฟส5รอบนี้อาจจะไม่ได้ทุกคน
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ว่า ตอนนี้ ดัชนีการใช้จ่ายในทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 3.9% ซึ่งออกมาในเกณฑ์ดี ถือว่าเศรษฐกิจกำลังไปได้ และโครงการต่าง ๆ ต้องพิจารณาจากความจำเป็นว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่
ในส่วนของโครงการคนละครึ่งเฟส 5 จะเป็นการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่นอกขอบเขตการช่วยเหลือ เน้นไปที่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง เช่น คนที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนที่เข้าไม่ถึงมาตรการของรัฐ และคนที่ไม่ได้สมัครคนละครึ่งในครั้งก่อน ๆ ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการคัดคน ครั้งก่อน ๆ นั้น ไม่ว่าจะคนรายได้มากหรือรายได้น้อยก็ได้สิทธิเท่ากัน
ด้านความเคลื่อนไหวล่าสุด ในวันที่ 25 พ.ค.65 ทางฐานเศรษฐกิจ มีรายงานว่า สภาพัฒน์ พร้อมรับข้อเสนอเเล้ว โดย นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึง โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ว่า สศช.คงต้องหารือกับหน่วงยงานที่เกี่ยวข้องถึงการผลักดัน คนละครึ่ง เฟส 5 ก่อน ซึ่งขณะนี้เข้าใจว่ามาตรการนี้ได้รับความนิยมจากประชาชน แต่การจะผลักดันออกมาหรือไม่ต้องพิจารณาก่อน
เข้าใจว่ามาตรการคนละครึ่ง เฟส 5 ทุกคนชอบ ซึ่งรัฐบาลเองก็ดีใจที่ทุกคนชอบมาตรการนี้ แต่ว่าต้องบอกตามตรงว่า มาตรการในลักษณะนี้เป็นมาตรการเฉพาะ ที่จะทำในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แล้วก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ด้วย อย่างไรก็ตามด้วยข้อเสนอของหน่วยงานภาคเอกชนหลายแห่งที่สนับสนุนให้ผลักดันมาตรการนี้ออกมา สศช. ในฐานะของประธานคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ตามพ.ร.ก.กู้เงินฯ 5 แสนล้านบาท ก็พร้อมรับข้อเสนอไปพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อไปยังไงได้บ้าง
นายดนุชา กล่าวว่า ในรายละเอียดของคนละครึ่ง คงต้องมาคุยกันอีกทีว่าจะเอายังไง เพราะยังไม่รู้ว่าจะมีมาตรการนี้ออกมาหรือไม่ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่อยากให้คนคุ้นชินกับคนละครึ่งมากเกินไป เพราะมาตรการลักษณะนี้ไม่ใช่มาตรการประจำ ใช้เงินสูงอาจส่งผลต่อภาระงบประมาณ จนอาจกลายเป็นปัญหาระยะยาวได้ แม้มาตรการนี้จะช่วยลดค่าครองชีพ และกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนก็ตาม
cr.