จากกรณีที่ทางเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว เปิดภาพชัดๆ ชายชาวไนจีเรียวัย27ปี ผู้ป่วยฝีดาษลิง รายแรกในไทย โดยผู้ป่วยรายนี้ ชื่อว่า Mr.OSMOND CHIHAZIRIM NZEREM สัญชาติไนจีเรีย ถือประเภทวีซ่า NON-ED (น่าจะมาเรียนภาษา วีซ่าอยู่ไทยได้ 90 วัน) อนุญาตถึง18 มกราคม 2022 โดยผู้ป่วยฝีดาษลิงรายแรกในไทยไม่ให้ความร่วมมือกับทางการ อ้างว่ามาทำธุรกิจในไทย ให้ข้อมูลเพียงว่าชอบเที่ยวสถานบันเทิง และเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ไป
ความคืบหน้าหลังจากที่ประเทศไทยเจอผู้ป่วยฝีดาษลิงรายเเรก เป็นชาวไนจีเรีย ที่จังหวัดภูเก็ต โดยวันที่ 22 ก.ค.65 ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการแถลงข่าวกรณีพบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรรายแรกชาวไนจีเรียในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต แพทย์หญิงกนกอร เลิศลำยอง แพทย์อายุรศาสตร์สาขาอายุรศาสตร์โรคติดเชื้อและเวชศาสตร์เขตร้อน โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าว
โดย นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดไทม์ไลน์ของผู้ป่วยฝีดาษลิง เริ่มเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม2565 ที่ผ่านมา โดยทาง สสจ.ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลเอกชนว่า มีเคสสงสัย ให้ข้อมูลการว่ามีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก มีผื่นแดง ตุ่มนูนแดง ตุ่มหนอง เริ่มจากอวัยวะเพศลามไปใบหน้า ลำตัว แขน เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้ออก่อโรค มีประวัติสัมผัสนักท่องเที่ยวในสถานบันเทิงที่ป่าตองใน 2-3 สัปดาห์ก่อนป่วย
พร้อมทั้งให้ประวัติมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ปลอดภัย (กับเพศหญิงไม่สามารถระบุสัญชาติได้) โดยในวันที่ 18 กรกฎาคม ทราบผลแลป ตรวจ PCR พบเชื้อฝีดาษลิงหรือ Monkeypox virus โดยห้องปฏิบัติการที่คณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ และต่อมาวันที่ 19 กรกฎาคม ทราบผลแลป ยืนยันโดยห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยรายนี้ปฏิเสธการให้ข้อมูลส่วนบุคลลทั้งอาชีพและข้อมูลการเดินทาง รวมถึงปฏิเสธการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ขณะที่ การสอบสวนโรคมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 17 คน เบื้องต้นกลุ่มแรก 7 คน ไม่พบเชื้อ ขณะที่อีก 10 คน อยู่ระหว่างรอผลและกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการ
(เพจสรยุทธ เผยภาพชายไนจีเรีย)
พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าผู้ป่วยรายนี้ ได้หลีกเลี่ยงการเปิดประวัติส่วนบุคคล ทั้งการเดินทาง และอาชีพ และหลบหายไปจากที่พัก เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมช่วงเวลา 21.00น. เบื้องต้นทราบว่าผู้ป่วยรายนี้เป็นนักท่องเที่ยวที่ ไม่ได้ต่ออายุ VISA จึงกลายเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่ม overstay ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัว โดยปิดทุกช่องทางเข้าออกของจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ เมื่อติดตามตัวได้แล้วจะเฝ้าระวังอาการตามขั้นตอนทางการแพทย์และดำเนินการตามกฎหมายจากการพำนักแบบ overstay ต่อไป
ด้านนายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และแพทย์หญิงกนกอร เลิศลำยอง แพทย์อายุรศาสตร์สาขาอายุรศาสตร์โรคติดเชื้อและเวชศาสตร์เขตร้อน โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้ร่วมกันแถลงข่าวใจความตอนหนึ่งว่า โรคฝีดาษวานรหรือฝีดาษลิง เป็นโรคที่ติดต่อจากสัตว์สู่คนที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับโรคฝีดาษ มี 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ West African เป็นสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรง อีกสายพันธุ์คือ Central African เป็นสายพันธุ์ที่มีความรุนแรง
กว่า
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยรายนี้ พบเชื้อยืนยันเป็นสายพันธุ์ West African ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรง ส่วนการติดต่อก็ติดต่อจากสัตว์สู่คน โดยการสัมผัสสารคัดหลั่งหรือแผลของสัตว์ป่วยหรือการกินสัตว์ที่ปรุงไม่สุก หรือการติดต่อจากคนสู่คน โดยการสัมผัสโดยตรงกับแผนหรือสารคัดหลั่งทางเดินหายใจของผู้ป่วยหรือสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนสารเคมีคัดหลั่ง หากใครมีอาการไข้หรือประวัติว่ามีไข้ร่วมกับอาการอย่างน้อยหนึ่งอย่างได้แก่ เจ็บคอ ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโต และเป็นผื่น ตุ่มใสหรือตุ่มหนองก็สมควรต้องพบแพทย์เพื่อยืนยันโรค
ในส่วนของ นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้เน้นย้ำในตอนท้ายว่า จากที่ได้รับฟังการแถลงข่าวจากทั้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตและผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตก็ขอยืนยันว่านักท่องเที่ยวและประชาชนยังคงสามารถเดินทางท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตได้ตามปกติ เนื่องจากโรคนี้สามารถหายขาดเองได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ หากไม่ไปสัมผัสผู้ป่วยโดยตรงทางผิวหนัง หรือเยื่อบุหรือสารคัดหลั่งจากร่างกายของผู้ป่วย ย้ำว่าไม่ได้แพร่เชื้อได้ง่ายเหมือนโรคโควิด -19 แต่อย่างใด
cr. สำนักงาน ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต / เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews