วันที่ 21 ตุลาคม 2567 มีรายงานว่า ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อมอบหลักฐานเอาผิด นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช กรณีที่มีคลิปเสียงปรากฏเรียกรับเงินจากบอสพอล ดิ ไอคอน กรุ๊ป เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีฟอกเงิน
ทนายตั้ม เปิดเผยว่า ที่ตนเดินทางมาวันนี้เพื่อขอให้ดีเอสไอตรวจสอบคลิปเสียงและดำเนินคดีฟอกเงินกับนายสามารถ โดยนำพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นคลิปเสียง ภาพถ่าย คลิปที่ออกรายการ เอกสารการโอนเงิน รวมทั้งมีพยานบุคคล 1 รายที่เป็นบุคคลใกล้ชิดกับนายสามารถมามอบให้ ดีเอสไอ พร้อมกันนี้ได้ขอให้ดีเอสไอคุ้มครองพยานคนนี้ เพราะเกรงในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากพยานบุคคลรายนี้พบประวัติเคยถูกทำร้ายร่างกายมาก่อนด้วย
ตนไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของพยานหลักฐานได้ เพราะเป็นเรื่องในสำนวนคดี แต่ยืนยันว่า มีหลักฐานที่เป็นเส้นทางการเงินที่สามารถมัดตัวนายสามารถได้แน่นอน นอกจากนี้ตนมีข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมช่วงประมาณ 20.00 นายสามารถได้นัดพบกับบอสปีเตอร์ที่ร้านฟาสต์ฟู๊ดแห่งหนึ่งเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ช่วยเหลือหลังจากที่บริษัท ดิไอคอน กำลังถูกเปิดโปง โดยตนมีพยานหลักฐานจากร้านดังกล่าวชัดเจน แต่ยังอุบเงียบไว้ก่อน เพราะให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ยืนยันว่ามีเด็ดกว่ากล้องวงจรปิดในร้านแน่นอน
ที่มองคดีดังกล่าวเป็นคดีฟอกเงิน เนื่องจากคดีมูลฐานของ ดิไอคอน เป็นเรื่องฉ้อโกงประชาชนและตามที่ปรากฏคลิปเสียงอย่างชัดเจนว่า นายสามารถเรียกรับเงินจากบริษัท ดิไอคอน เดือนละกว่าแสนกว่าบาทเพื่อช่วยเหลือคดั จึงถือเป็นส่วนหนึ่งของการฟอกเงิน เลยนำมาสู่การแจ้งความฟอกเงินกับดีเอสไอในวันนี้ คดีดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมือง เพราะไม่มีนักการเมืองคนไหนมามีส่วนเกี่ยวข้อง ตนและทนายความอีกหลายท่านก็ต้องการที่จะช่วยเหลือประชาชนด้วยความเต็มใจและไม่มีใครรู้จักกับนักการเมืองเลย ส่วนกรณีนายสามารถจะมีเส้นทางการเงินถึงนักการเมืองใหญ่หรือไม่ เรื่องนี้ตนต่อไม่ได้เพราะยังไม่พบเส้นเงินดังกล่าวต้องให้ดีเอสไอ เป็นผู้ตรวจสอบ