"คลัง" เตรียมทบทวนเกณฑ์ผู้เข้าร่วม บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่

21 ตุลาคม 2567

กระทรวงการคลัง เตรียมทบทวนเกณฑ์ผู้เข้าร่วม บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ คาดเริ่มลงทะเบียนไม่เกิน มี.ค. 2568

คืบหน้าโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทางด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในเร็วๆนี้ ตนในฐานะประธานคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานราก จะมีการนัดประชุมหารือความคืบหน้าการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ หลังจาก ครม.มีมติให้มีการทบทวนข้อมูลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ทุก 2 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการฯ รอบใหม่ช่วงต้นปี 68 และจากนั้นจะมีการคัดกรองสิทธิ เพื่อให้ได้คนผู้ได้สิทธิทั้งหมดเสร็จทันภายในวันที่ 31 มี.ค. 68

คลัง เตรียมทบทวนเกณฑ์ผู้เข้าร่วม บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่

ทั้งนี้ ในการประชุมจะมีการหารือถึงแนวทางการเปิดลงทะเบียนฯ ซึ่งจะต้องมีการลงทะเบียน ทบทวนสิทธิใหม่ทุกคนทั้งในส่วนของคนเก่าที่ได้สิทธิอยู่แล้ว 13.5 ล้านคน และคนใหม่ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน เพื่อคัดกรองให้คนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเท่านั้นที่จะได้สิทธิสวัสดิการ ส่วนหลักเกณฑ์การคัดกรองสิทธิจะมีการสรุปในเร็วๆ นี้

โดยจะต้องดูทั้งในส่วนของรายได้ แต่จะเป็น 100,000 บาทต่อปีเท่าเดิม หรือปรับเป็นเท่าไรจะต้องพิจารณากันก่อน รวมถึงดูว่าเกณฑ์ที่ผ่านมาใช้พิสูจน์ฐานะความยากจนได้จริงหรือไม่ เช่น การถือครองที่ดิน เป็นต้น ก็ต้องดูให้เหมาะสม

คลัง เตรียมทบทวนเกณฑ์ผู้เข้าร่วม บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่

นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการให้กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดระเบียบระบบสวัสดิการทุกประเภทสำหรับประชาชนใหม่ หลังพบปัญหาคนจนไม่จริง รวมถึงดูมีความพิการจริงหรือไม่ หรือบางคนเสียชีวิตไปแล้วแต่ยังได้รับสวัสดิการอยู่ เพื่อดูว่าทุกวันนี้หน่วยงานต่างๆมีการให้สวัสดิการกี่ประเภท และมีความเหมาะสมถูกต้องหรือเปล่า จากนั้นนำข้อมูลไปปรับใช้ให้สามารถช่วยเหลือคนได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ยิ่งขึ้น หลังจากที่ผ่านมาพบมีบางคนได้สวัสดิการของรัฐสูงถึงเดือนละ 1 หมื่นบาท จึงต้องไปดูให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันมากสุด

ทั้งนี้ การจัดทำฐานข้อมูลสวัสดิการที่ครบถ้วนสมบูรณ์ จะเป็นเครื่องที่ช่วยให้การทำมาตรการจัดสรรสวัสดิการ เนกาทีฟ อินคัม แท็กซ์ ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งที่ผ่านมาจากการศึกษายอมรับว่าการที่มีข้อมูลไม่สมบูรณ์ ไม่ครบถ้วนเป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าของนโยบาย