เช็ก บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนกุมภาพันธ์ 2568 เงินเข้าได้กี่บาท
เช็กวันเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน เดือนกุมภาพันธ์ 2568 ได้กี่บาท ก่อนคลังเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 68 รอบใหม่
เช็กสิทธิ บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนกุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งผู้ที่ถือบัตรคนจนยังสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้รับเงินอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะมีการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2568 ลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงสิ้นเดือนมีนาคม 2568 ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประกาศออกไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลัง เตรียมโอนเงินเข้าบัญชีให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยค่าใช้จ่ายทั้งเดือนจะมีดังนี้
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568
- วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน (สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 พ.ย. - 26 ธ.ค. 67 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 ม.ค. 68 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ม.ค. - มี.ค. 68)
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568
- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน
สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน 27 พ.ย. - 26 ธ.ค. 2567 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)
การบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ เนื่องจากใกล้จะครบ 2 ปี หลังจากที่เปิดลงทะเบียนไปรอบล่าสุดเมื่อปลายปี 2565 (5 ก.ย.-31 ต.ค. 2565) เนื่องจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบางคน อาจจะมีคุณสมบัติหลุดจากเกณฑ์ไปแล้ว หรือบางคนที่ไม่ได้รับสิทธิในรอบที่แล้ว อาจจะมีคุณสมบัติผ่านในรอบนี้
โดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดว่า เรื่องนี้ต้องขอเวลาในการศึกษารายละเอียด เนื่องจากเงื่อนไขที่ปรับปรุงยังไม่ได้ข้อสรุป โดยภายในเดือน ม.ค. 2568 จะต้องมีการประชุมเพื่อสรุปรายละเอียดอีกครั้ง โดยจะต้องมีการเสนอรายละเอียดเกณฑ์ใหม่ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป ก่อนจะเตรียมเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนก่อนสิ้นเดือนมีนาคม 2568 โดยคาดจะมีผู้ลงทะเบียนกว่า 25 ล้านคน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มเดิมคือผู้ที่มีสิทธิในปัจจุบันที่ผ่านกระบวนการแล้ว 14.5 ล้านคน จะไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ รัฐบาลจะนำรายชื่อไปคัดกรองสิทธิอัตโนมัติ
2. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มใหม่ที่ประมาณการไว้ที่ 10 ล้านคน คือกลุ่มที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน ซึ่งมาจากประชาชนที่อายุครบ 18 ปี เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มที่เคยลงทะเบียนแต่ไม่ได้รับสิทธิ 4-5 ล้านคน และกลุ่มอื่นๆที่คาดการณ์ไว้ก็มีอีกหลายๆล้านคนที่คงจะมาลงทะเบียน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าทั้งหมดจะได้รับสิทธิก็ต้องมาตรวจสอบตามกลไกต่อไป
ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 รอบใหม่ ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ"
- ในส่วนของกลุ่มผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อนจะต้องมีการลงทะเบียน โดยจะเริ่มได้ก่อนสิ้นเดือน มี.ค. 2568 โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" และขั้นตอนการลงทะเบียนที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
คุณสมบัติผู้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2568
คุณสมบัติผู้มีสิทธิลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามเกณฑ์เดิม ซึ่งคาดว่าจะใช้ในการลงทะเบียน เบื้องต้นได้กำหนดไว้ดังนี้
- ลงทะเบียนรายบุคคล และตรวจสอบคุณสมบัติเป็นรายบุคคลและครอบครัว
- ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี หรือภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
- ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน หรือในระดับครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีเช่นเดียวกัน
- ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
- ไม่มีบัตรเครดิต
- ไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
- ไม่มีวงเงินกู้ซื้อรถตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
- ไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง สส. และ สว.
- กรณีไม่มีครอบครัว ห้องชุดต้องไม่เกิน 35 ตร.ม. และที่ดินที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่ และใช้ในการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่ มีบ้านพร้อมที่ดิน บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว ไม่เกิน 25 ตร.ว. และรวมกันหมดแล้ว พื้นที่การเกษตรไม่เกิน 10 ไร่
นอกจากนี้ได้สั่งการให้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ดำเนินการตรวจสอบทบทวนหลักเกณฑ์ทั้งเก่าและใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมกับการดำเนินงาน ป้องกันไม่ให้คนจนไม่จริงเข้ามาสวมสิทธิ ซึ่งในด้านเกณฑ์รายได้ครัวเรือนยังมีอยู่เหมือนเดิม ขณะที่เกณฑ์เรื่องการถือครองที่ดิน จะทำให้สามารถตรวจสอบใช้ได้จริง พร้อมจะดูรายละเอียดในเรื่องสินทรัพย์ การถือครองสลาก และพันธบัตร