ข่าว

heading-ข่าว

"ตดเหม็นมากผิดปกติ" หมอเตือน ร่างกายกำลังบอกอะไรกับเรา

11 มี.ค. 2568 | 16:24 น.
"ตดเหม็นมากผิดปกติ" หมอเตือน ร่างกายกำลังบอกอะไรกับเรา

ตดมีกลิ่นแรง? นี่คือสิ่งที่ร่างกายคุณกำลังบอก ถ้ากลิ่นแรงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ต้องระวัง!

ตดบ่อยแค่ไหนถึงเรียกว่าผิดปกติ? คนเราปกติผายลมประมาณ 10-20 ครั้งต่อวัน ถ้าน้อยกว่านี้อาจเพราะกินไฟเบอร์น้อย แต่ถ้ามากเกิน 20 ครั้งขึ้นไป อาจเป็นผลจากอาหารที่กิน หรือเป็นสัญญาณของภาวะลำไส้บางอย่าง

"หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับ "ตด" โดยระบุว่า 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมื่อวานไลฟ์ คนถามเข้ามาเยอะนะครับ เกี่ยวกับเรื่อง “ผายลมหรือตด” การผายลมเป็นเรื่องใกล้ตัว เแต่ชื่อว่า หลายๆ คนคงไม่ได้สังเกตการผายลมตัวเองสักเท่าไหร่ ซึ่งบอกเลยนะว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถ บอกสุขภาพเราได้
แล้วแต่การตดแบบไหนที่ถือว่าปกติ?
ทำไมบางทีตดเยอะ บางทีกลิ่นแรง บางทีไม่มีเสียงเลย?
หรือบางครั้ง เราตดบ่อยจนรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว?

วันนี้ผมอธิบายให้ฟังครับ

 

 

1. ทำไมเราถึงผายลม?
การผายลมเป็นกระบวนการที่ร่างกายใช้กำจัดแก๊สส่วนเกินออกจากลำไส้ ซึ่งแก๊สพวกนี้มาจากหลายสาเหตุ ลองดูว่าต้นเหตุหลัก ๆ มีอะไรบ้าง
1.1 อากาศที่กลืนเข้าไป
เชื่อไหมว่า แก๊สที่ออกมาเป็นตดบางส่วน มาจากอากาศที่เรากลืนเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
ใครที่ชอบพูดตอนกินข้าว หรือกินข้าวเร็ว ๆ นี่แหละตัวดีเลย เพราะตอนที่เรากิน อากาศก็ไหลลงไปในท้องด้วย แถมถ้าเคี้ยวหมากฝรั่ง หรือดื่มน้ำจากหลอด ก็ยิ่งกลืนอากาศมากขึ้นอีก ซึ่งอากาศพวกนี้จะต้องออกจากร่างกาย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง บางส่วนจะออกมาเป็นเรอ และบางส่วนเดินทางลงไปเป็นตด
1.2 กระบวนการย่อยอาหาร
อาหารที่เรากินเข้าไป บางอย่างร่างกายย่อยเองได้ แต่บางอย่างต้องพึ่งพา “แบคทีเรียในลำไส้” ซึ่งเจ้าพวกนี้จะช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรตหรือใยอาหารที่ร่างกายเราย่อยเองไม่ได้
อาหารที่มีเส้นใยเยอะ อย่างถั่ว ธัญพืช ผักตระกูลกะหล่ำ หรือผลไม้บางชนิด เป็นของโปรดของแบคทีเรียพวกนี้เลย แต่ผลก็คือ พวกมันจะปล่อยแก๊สออกมาด้วย ทำให้เกิดการผายลมนั่นเอง
1.3 ภาวะสุขภาพบางอย่าง
ถ้าคุณเคยกินนมแล้วรู้สึกว่าท้องอืด ผายลมบ่อย หรือท้องเสีย อาจเป็นไปได้ว่าคุณมีภาวะ “แพ้แลคโตส” (Lactose Intolerance) เพราะร่างกายย่อยน้ำตาลในนมไม่ได้ ทำให้เกิดการหมักหมมของอาหาร และเกิดแก๊สขึ้น
หรือบางคนที่มี “กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน” (IBS) ก็มักจะมีอาการท้องอืด ตดบ่อย และรู้สึกไม่สบายท้องตลอดเวลา
1.4 การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ใครที่เคยสังเกตตัวเองว่าช่วงก่อนมีประจำเดือนมักจะผายลมบ่อยขึ้น นั่นเป็นเพราะฮอร์โมนมีผลต่อระบบย่อยอาหารของเรานั่นเอง โดยเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ลำไส้ทำงานช้าลง อาหารใช้เวลาในการย่อยนานขึ้น จึงเกิดแก๊สมากกว่าปกติ

2. ลักษณะของการผายลมที่ควรรู้
2.1 ความถี่ของตด
ในไลฟ์คนก็ถามกันเยอะ หนูตดบ่อยเกิดจากอะไรและมีปัญหาอะไรคะ
อันนี้เราก็ต้องกลับมาดู คำว่าบ่อยนี่คือบ่อยขนาดไหน
ปกติแล้ว คนเราตด วันละ 10-20 ครั้ง ถ้าตดมากหรือน้อยกว่า
นี้ อาจเป็นสัญญาณอะไรบางอย่าง อย่าว่าผมแปลกเลย
นะ แต่อยากให้ทุกคนลองนับดู เพราะมันบ่งบอกความผิดปกติได้
•ตดน้อยกว่า 10 ครั้งต่อวัน – อาจเพราะกินไฟเบอร์น้อย หรือระบบย่อยอาหารทำงานช้า ถ้ามีอาการท้องอืดร่วมด้วย ลองเพิ่มไฟเบอร์ ดื่มน้ำให้เยอะขึ้น และขยับร่างกายบ้าง
•ตด 10-20 ครั้งต่อวัน – ปกติ ไม่มีอะไรต้องกังวล
•ตดมากกว่า 20 ครั้งต่อวัน – อาจเป็นเพราะกินอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สมาก เช่น ถั่ว ผักใบเขียว น้ำอัดลม นม หรืออาจเป็นสัญญาณของ IBS หรือ SIBO
กลิ่นของตดบอกอะไรได้บ้าง
2.2 กลิ่นตด
ปกติแล้ว ตดส่วนใหญ่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เพราะเป็นแค่ไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ และออกซิเจน แต่ถ้ามีกลิ่นแรง มักมี แก๊สกำมะถัน ผสมอยู่
•ตดไร้กลิ่น เกิดจากลมที่กลืนเข้าไปเยอะ เช่น หายใจเร็ว เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือกินอาหารที่ไม่ทำให้เกิดแก๊สพวกนี้ เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว
•ตดมีกลิ่น ถ้ากินอาหารที่มีกำมะถันสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว ผักตระกูลกะหล่ำ (บรอกโคลี กะหล่ำปลี หัวหอม กระเทียม) ตดก็อาจเหม็นได้
•ตดเหม็นหนักมาก อาจเป็นเพราะระบบย่อยมีปัญหา เช่น แพ้แลคโตส IBS หรือแบคทีเรียในลำไส้ผิดปกติ (SIBO)

3. เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?
ถ้าตดเยอะ หรือมีกลิ่นแรงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ามีอาการพวกนี้ร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์

  • ปวดท้องเรื้อรัง
  • ท้องอืดหนักจนรู้สึกอึดอัด
  • ท้องเสียหรือท้องผูกนานผิดปกติ
  • มีเลือดปนในอุจจาระ
  • น้ำหนักลดโดยไม่รู้สาเหตุ
  • มีไข้ร่วมกับอาการทางเดินอาหาร

ถ้ามีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาลำไส้ที่ต้องรีบเช็ก

4. วิธีลดการผายลมที่มากเกินไป

  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สเยอะ เช่น ถั่ว ผักตระกูลกะหล่ำ น้ำอัดลม และอาหารไขมันสูง
  • กินให้ช้าลง เคี้ยวให้ละเอียด ลดการกลืนอากาศ
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ลำไส้ทำงานดีขึ้น
  • ดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

5. โพรไบโอติกและพรีไบโอติกช่วยได้อย่างไร?

  • โพรไบโอติก (Probiotics) คือแบคทีเรียดีที่ช่วยปรับสมดุลในลำไส้ เช่น โยเกิร์ต คีเฟอร์ กิมจิ
  • พรีไบโอติก (Prebiotics) คืออาหารของแบคทีเรียดี เช่น กระเทียม หัวหอม กล้วย หน่อไม้ฝรั่ง

ทั้งสองอย่างนี้ช่วยลดปัญหาท้องอืด ตดบ่อย และทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
ตดเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับทุกคน และบอกอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับสุขภาพของเรา ถ้าผายลมเยอะขึ้น มีกลิ่นแรงผิดปกติ หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณว่าระบบย่อยอาหารของเรากำลังมีปัญหา
การกินอาหารที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สเยอะ ออกกำลังกาย และเสริมโพรไบโอติกกับพรีไบโอติก สามารถช่วยให้ลำไส้แข็งแรง และลดการเกิดตดที่ผิดปกติได้
สุดท้าย ถ้าตดดังไปหน่อยก็อย่าอาย เพราะมันคือสัญญาณว่าลำไส้คุณกำลังทำงาน ใครมีคำถามคอมเมนต์ได้เลยนะ

"ตดเหม็นมากผิดปกติ" หมอเตือน ร่างกายกำลังบอกอะไรกับเรา

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

จับหนุ่มรับจ้าง สแกนหน้าเปิดบัญชีม้า ถูกลอยแพหลังหมดประโยชน์

จับหนุ่มรับจ้าง สแกนหน้าเปิดบัญชีม้า ถูกลอยแพหลังหมดประโยชน์

สมยศ ท้าชน มาดามแป้ง จี้สมาคมฯ ขอหลักฐานเงินเดือน 32 ล้านใน 7 วัน

สมยศ ท้าชน มาดามแป้ง จี้สมาคมฯ ขอหลักฐานเงินเดือน 32 ล้านใน 7 วัน

เผยสาเหตุ เมียหลวงวัย 56 เสียชีวิต หลังคืนดีผัววัย 45 ที่นอกใจ

เผยสาเหตุ เมียหลวงวัย 56 เสียชีวิต หลังคืนดีผัววัย 45 ที่นอกใจ

CP ALL EDUCATION FORUM 2025 สร้างคนเก่ง คนดี มีความสามารถ ผ่านการศึกษายุค AI

CP ALL EDUCATION FORUM 2025 สร้างคนเก่ง คนดี มีความสามารถ ผ่านการศึกษายุค AI

ดวงวันนี้ 15 มี.ค. 2568 การเงิน การงาน จะเป็นอย่างไร วันนี้มีคำตอบ

ดวงวันนี้ 15 มี.ค. 2568 การเงิน การงาน จะเป็นอย่างไร วันนี้มีคำตอบ