นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ติดตามประเด็นการเจรจาแก้หนี้นอกระบบในพื้นที่จังหวัดน่าน พร้อมประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดน่าน และร่วมรับฟังการเจรจาแก้ปัญหาหนี้ระหว่างประชาชน (ลูกหนี้) กับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมด้วย
"น่าน" จังหวัดต้นแบบแก้หนี้นอกระบบ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายว่า วันนี้มาลงพื้นที่จังหวัดน่านเป็นจังหวัดแรก ตั้งเป้าหมายให้เป็นจังหวัดต้นแบบในการขับเคลื่อนเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติไปแล้ว การดำเนินการแก้ไขหนี้ที่ผ่านมา ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลย แต่เป็นที่ทราบดีว่าปัญหานี้อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน และได้แก้ไขปัญหาบนพื้นฐานของพื้นที่ที่สามารถทำได้ สำหรับจังหวัดน่านถึงแม้จะเป็นจังหวัดเล็ก ๆ แต่มีหน่วยงานครบทุกหน่วยงาน หากสามารถร่วมกันทำงาน พัฒนาแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ เรื่องหนี้นอกระบบเป็นปัญหาทุกข์ใจของประชาชน เป็นปัญหาที่ไม่ใช่ความผิด ซึ่งปัญหาไม่ได้เกิดจากการพนันหรือการซื้อยาเสพติด แต่เป็นปัญหาทางเศรษฐกิจที่ทุกท่านรู้กันดี รวมถึงการถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม
“วันนี้รัฐบาลจะมาเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมกันเป็นเจ้าภาพแก้ไขปัญหาให้ความเป็นธรรมทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ โดยยึดกฎหมายเป็นที่ตั้ง ถ้าสามารถทำได้จะเกิดการเปลี่ยนแปลง มีสิ่งดี ๆ ตามมาในชีวิตของประชาชน ขอให้ทุกท่านที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นผู้รับใช้ของประชาชน เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ที่รัฐบาลชุดนี้กำหนดต้องดำเนินการให้สำเร็จ ขอให้จังหวัดน่านเป็นจังหวัดต้นแบบในการแก้ไขปัญหา ขอให้กระทรวงมหาดไทยกำชับหน่วยงานในสังกัดในพื้นที่ดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ ขอฝากความหวังให้เจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกหน่วยงานคืนรอยยิ้มให้คนไทยทุกคน”นายกรัฐมนตรี ย้ำ
"ตลาดนัดเเก้หนี้" แหล่งไกล่เกลี่ยเจ้าหนี้และลูกหนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ประสบความสำเร็จ แต่ยังมีปัญหาเรื่องการดำเนินการ จากจำนวนผู้มาลงทะเบียนจำนวนมาก แต่พอถึงเวลาเจรจาไกล่เกลี่ย กลับมีลูกหนี้เดินทางมาเข้าสู่ระบบจำนวนไม่มาก ขอให้พิจารณากระบวนการทำงาน ปรับเปลี่ยนจากที่ลูกหนี้เดินทางมาจังหวัด ให้จัดตลาดนัดแก้ไขหนี้ในตำบล ให้เจ้าหนี้และลูกหนี้เดินทางมาสะดวกขึ้น พร้อมมอบหมายให้กรมการปกครองสั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองลงพื้นที่เก็บข้อมูล อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้มากขึ้น พร้อมกับฝากให้ฝ่ายความมั่นคงดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตของลูกหนี้ และมอบหมายให้ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน คำนวณอัตราหนี้และจำนวนเงินดอกเบี้ยที่ส่งไปแล้ว หากเกินจำนวนเงินที่กู้ ขอให้เจรจายุติหนี้
ข้อมูลปัญหาหนี้นอกระบบจังหวัดน่าน
ตามแนวทางที่กรมการปกครองและกระทรวงมหาดไทยกำหนด มีผู้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ธันวาคม)
- ลูกหนี้ 563 ราย
- เจ้าหนี้ 518 ราย
ยอดหนี้มูลค่ารวม 33,041,242 บาท
สาเหตุการเป็นหนี้ 5 อันดับแรก ได้แก่
1. ด้านอุปโภค 602 ราย
2. ด้านการลงทุน 496 ราย
3. ต่อเติมที่อยู่อาศัย 109 ราย
4. ค่าเทอม 288 ราย
5. การพนัน 17 ราย
5 เป้าหมายและตัวชี้วัดจังหวัดน่าน
1. กำหนดการเจรจาไกล่เกลี่ยได้อย่างน้อยร้อยละ 80 ของลูกหนี้ในระบบและเจ้าหนี้ตามฐานข้อมูล โดยสามารถตกลงกันได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50
2. เจ้าพนักงานตำรวจ สามารถดำเนินคดีได้ทั้งหมดร้อยละ 70 ของเรื่องรับดำเนินการ ระยะเวลาดำเนินการหากเป็นสำนวนไม่ยุ่งยากดำเนินการเสร็จก่อน 3 เดือน กรณีมีความซับซ้อนไม่เกิน 3 เดือน
3. การให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งจะต้องได้รับการให้สินเชื่อโดยธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร มีเป้าหมายผู้ได้รับความช่วยเหลือไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของผู้ลงทะเบียน
4. ทุกอำเภอต้องดำเนินการไกล่เกลี่ยให้สำเร็จอย่างน้อย 1 กรณีตัวอย่าง (Best Practice)
5. จังหวัดน่านกำหนดให้แก้ไขปัญหาในภาพรวม ได้อย่างน้อย 10% ของผู้ลงทะเบียน ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566
ผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาฯ จังหวัดน่าน
จากจำนวนลูกหนี้ที่ลงทะเบียนทั้งหมด 563 ราย ลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย 52 ราย คิดเป็น 32.70% ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 4 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการไกล่เกลี่ย 48 ราย และให้รัฐจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 28 ราย คิดเป็น 17.61 % รวมผลการดำเนินการแก้ไขให้ความช่วยเหลือแล้วจำนวน 80 ราย คิดเป็น 50.31%