ลูกสาวตกเขา คาตาผู้เป็นพ่อ คว้าไม่ทัน เสียงสุดท้ายยังก้องอยู่ในหัว

25 กรกฎาคม 2567

หัวอกพ่อใจสลาย ลูกสาวตกเขา คาตา - คว้าไม่ทัน เสียงสุดท้ายของเธอยังก้องอยู่ในหัว รู้ผลชันสูตรมีเรื่องเดียวที่โล่งใจ

เกิดเหตุสุดสลดใจขึ้นต่อหน้าต่อตาคนเป็นพ่ออย่าง โจนาธาน โรฟ์ลอฟฟ์ ที่ต้องสูญเสียลูกสาวไปอย่างกะทันหัน หลังจากที่ พ่อลูกคู่นี้ได้ไปเดินป่ากับลูกสาว บริเวณภูเขาหินในอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ทว่าจู่ๆ ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เมื่อลูกสาวของเขาเกิดลื่้นไถลตกลงจากผาหิน

 

ลูกสาวตกเขา คาตาผู้เป็นพ่อ คว้าไม่ทัน เสียงสุดท้ายยังก้องอยู่ในหัว

ตามรายงานระบุว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา เกรซ โรห์ลอฟฟ์ นักศึกษาวัย 20 ปี ได้ไปเดินป่ากับโจนาธาน โรฟ์ลอฟฟ์ (Jonathan Rohloff) ซึ่งพวกเขาเลือกใช้เส้นทางพิชิต ฮาล์ฟโดม (Half Dome) ซึ่งเป็นภูเขาหินที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี การเดินป่าครั้งนี้มีระยะทาง 25 กิโลเมตร แต่ระยะทางนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับนักเดินป่าที่มีประสบการณ์อย่างทั้งคู่ 

 


เกรซ และ โจนาธาน ได้ปีนขึ้นไปจนถึงยอดภูเขาหินได้อย่างสบายๆ ด้วยความช่วยเหลือจากสายเคเบิลที่ติดตั้งไว้ตลอดเส้นทางเดินป่า ก่อนที่ทั้งคู่จะได้เพลิดเพลินไปกับวิวอันน่าทึ่งบนยอดเขา แต่แล้วพวกเขาก็พบว่ามีกลุ่มเมฆฝนสีดำขณะที่กำลังจะกลับลงมา
 

 

ผู้เป็นพ่อ รู้สึกเป็นกังวลเมื่อเห็นเมฆฝน เขาแนะนำลูกให้รีบกลับลงไปด้านล่าง เพราะการติดอยู่บนภูเขาหินในตอนที่ฝนเทลงมาไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก ดังนั้น ทั้งคู่จึงพากันเดินทางกลับพร้อมกับนักเดินป่าคนอื่นๆ ที่พยายามจะลงไปด้านล่างเช่นกัน

 


และในวันนั้น เกรซสวมรองเท้าเดินป่าคู่ใหม่สำหรับการผจญภัย แต่หลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เธอก็รู้ตัวว่ามีปัญหาเกิดขึ้นตอนที่ลงจากเขามาได้เพียง 3 ใน 4 ของเส้นทาง นั่นทำให้พ่อลูกต้องหยุดชะงักชั่วคราว จากนั้นโจนาธานก็พยายามทำให้ลูกสาวสงบจิตใจ ด้วยการบอกเธอว่าให้ค่อยๆ ก้าวทีละก้าว แต่จากนั้นเกรซก็ได้พูดมาประโยคหนึ่ง 

ลูกสาวตกเขา คาตาผู้เป็นพ่อ คว้าไม่ทัน เสียงสุดท้ายยังก้องอยู่ในหัว

"พ่อ รองเท้าหนูลื่นมาก" โจนาธาน ยังจำคำพูดของลูกสาวได้ ซึ่งนั่นกลายมาเป็นคำพูดสุดท้ายของลูกสาวของเขา และไม่นานจากนั้น สาวน้อยวัย 20 ปีก็เสียหลักและลื่นไถลผ่านตัวพ่อของเธอที่ทั้งตกใจและหวาดผวา ซึ่งโจนาธานเผยถึงช่วงเวลานั้นว่า ลูกลื่นไถลออกไปด้านข้าง ตรงข้างๆ ตัวตนเองเธอตกลงไปจากภูเขา มันเกิดขึ้นเร็วมาก ตนพยายามเอื้อมมือออกไป แต่ลูกก็หายไปแล้ว

 

พร้อมกันนี้ โจนาธานเผยว่า ลูกสาวของเขาตกลงมาจากความสูงประมาณ 60 - 91 เมตร และศีรษะน่าจะกระแทกเขากับหินระหว่างที่ร่วงลงไป น่าเศร้าที่เขาไม่สามารถรีบไปหาลูกได้ทันที เนื่องจากความลาดชันของภูเขา อีกทั้งเขายังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากนักเดินป่าคนอื่นด้วยเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นเขายังไม่หมดหวัง โจนาธานยังพยายามตะโกนบอกลูกสาวว่า "พ่ออยู่นี่ พ่อไม่ทิ้งลูกนะ ถ้าลูกได้ยินเสียงพ่อ ให้สัญญาณพ่อหน่อย พ่อรักลูกนะ"

 

จากนั้นเขาก็เริ่มสวดมนต์ร่วมกับนักเดินป่าคนอื่นๆ ในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่มาถึง ซึ่งต้องใช้เวลานานถึง 3 ชั่วโมง สุดท้ายเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยก็พบตำแหน่งของเกรซ แต่น่าเศร้าที่เธอไม่รอดชีวิตจากการตกเขา โดยเจ้าหน้าที่ชันสูตรพบว่า เธอเสียชีวิตจากกะโหลกศีรษะแตก แม้จะเป็นเรื่องเศร้า แต่โจนาธานก็ยังโล่งใจว่าลูกสาวเสียชีวิตตั้งแต่ตอนตกลงมา ซึ่งเท่ากับว่าเธอไม่ต้องทนทุกข์ทรมานระหว่างช่วงเวลาที่รอความช่วยเหลือ  

 

อย่างไรก็ตาม เกรซเป็นนักเดินป่าที่มีประสบการณ์ และเคยพิชิตเส้นทางเดินป่าใหญ่ๆ มาแล้ว ขณะที่ฮาล์ฟโดมนั้นเป็นเส้นทางเดินป่าที่ต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงสามารถเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่มีคำเตือนไม่ให้ขึ้นไปยังฮาล์ฟโดม หากพบเห็นเมฆฝนหรือพื้นเปียก ซึ่งจะเป็นอันตราย โดยพบว่านับตั้งแต่ปี 2491 มีผู้เสียชีวิตระหว่างพยายามขึ้นไปยังฮาล์ฟโดมอย่างน้อย 15 คนแล้ว 

ลูกสาวตกเขา คาตาผู้เป็นพ่อ คว้าไม่ทัน เสียงสุดท้ายยังก้องอยู่ในหัว

ภาพจาก Jonathan Rohloff