เหล่าแฟนคลับต่างไว้อาลัยให้กับการจากไปของ บีอานดริ บอยเซ็น (Bea Booysen) ดาว TikTok ชาวแอฟริกาใต้ ได้เสียชีวิตแล้วในวัย 19 ปี หลังจากป่วยด้วยโรคโพรเจอเรีย (Progeria) หรือ โรคแก่ก่อนวัย มาตั้งแต่เล็ก
ตามรายงานระบุว่า เมื่อวันพุธที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา เบีย บอยเซ็น แม่ของ บีอานดริ บอยเซ็น ได้ยืนยันข่าวมรณกรรมของลูกสาวในโพสต์บนเฟซบุ๊กของเธอ พร้อมข้อความระบุว่า "ด้วยรักและอาลัยถึง บีอานดริ บอยเซ็น"
โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ลงกลุ่มเฟซบุ๊กซึ่งมีชื่อว่า "Beandri, Our Inspiration" ซึ่งสร้างขึ้นโดยครอบครัวของบอยเซ็นเมื่อ 15 ปีก่อน โดย เบีย ระบุว่า "เราขอแจ้งข่าวเศร้าอย่างสุดซึ้ง เราขอแจ้งข่าวการจากไปของบีอานดริ หนึ่งในหญิงสาวที่เป็นที่รักและให้แรงบันดาลใจมากที่สุดคนหนึ่งของแอฟริกาใต้"
ทั้งนี้ เบีย กล่าวถึง บีอานดรี ผู้ป่วยโรคแก่ก่อนวัย แต่เป็นแรงบันดาลใจให้คนจำนวนมากว่า "แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทาย แต่บีอานดริก็ยังคงเปล่งประกายแห่งความหวังและความสุขในชีวิต เธอเป็นทั้งกระบอกเสียงและสัญลักษณ์ของความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคโพรเจอเรียและผู้ด้อยโอกาสอื่นๆ รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนหมื่นด้วยจิตวิญญาณอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ"
อีกทั้ง เบีย ยังระบุว่า บีอานดริคือผู้ป่วยโรคโพรเจอเรียคนสุดท้ายในแอฟริกาใต้ โรคนี้มีชื่อเต็ม ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ากลุ่มอาการโปรเกเรียของฮัทชินสัน-กิลฟอร์ด (Hutchinson-Gilford progeria syndrome) หรือ HGPS
นอกจากนี้เธอยังปิดท้ายด้วยการขอความเป็นส่วนตัวให้ครอบครัวในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ และสัญญาว่าจะเปิดเผยรายละเอียดของพิธีรำลึกในภายหลัง ขณะที่ TikTok ของบีอานดริ มีผู้ติดตามมากกว่า 278,000 คน โพสต์ของบีอานดรี มักได้รับคำชื่นชม โดยแฟนๆ ต่างยกย่องในความอดทนและความมองโลกในแง่ดีของเธอ
ก่อนหน้านี้ บีอานดริได้รับการผ่าตัดหัวใจเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยเธอได้โพสต์ขอบคุณแฟนๆ สำหรับคำอวยพรให้หายป่วย ต่อมา เบียก็เปิดเผยว่า หัวใจของบีอานดริหยุดเต้นแล้ว ทำให้แฟนคลับและผู้ติดตามของเธอต่างพากันเข้ามาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเธออย่างล้นหลาม
จากข้อมูลถึงเดือน ก.ย. 67 มูลนิธิวิจัยโรคโพรเจอเรีย ระบุว่า มีเด็ก 17 คน ที่เป็นโรค HGPS ในสหรัฐอเมริกา สะท้อนอัตราการป่วยโดยเฉลี่ยคือ 1 ใน 20 ล้านคน
สำหรับ เด็กที่เป็นโรคโพรเจอเรียโดยทั่วไป จะดูแข็งแรงตั้งแต่แรกเกิด แต่จะเริ่มแสดงอาการของการแก่ก่อนวัยอย่างรวดเร็วภายใน 2 ปีแรกของชีวิต อาการที่พบ ได้แก่ การเจริญเติบโตล่าช้า ไขมันในร่างกายและผมลดลง ผิวหนังดูแก่กว่าวัย ข้อต่อแข็ง ขาดความยืดหยุ่น มีภาวะแทรกซ้อนทางหลอดเลือดและหัวใจ
แต่พัฒนาการทางสติปัญญามักไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งอายุขัยเฉลี่ยของผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่ที่ 14-15 ปี โดยส่วนใหญ่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมอง แต่ผู้ป่วยบางรายสามารถมีอายุยืนยาวถึงวัย 20 ปีเศษ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคโพรเจอเรีย แม้จะมีพัฒนาการในการรักษาและค้นพบยาโลนาฟาร์นิบที่ช่วยชะลอโรคและยืดอายุผู้ป่วยได้
ภาพจาก Bea Booysen