อย่าลืม 1 ตุลาคม 2565 นี้ เพิ่มสิทธิประโยชน์ "บัตรทอง" ปี 66 อีก 6 รายการ โดยนพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2566 ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 นี้ สปสช.จะเริ่มเดินหน้าดำเนินการกองทุนโดยการ "เพิ่มสิทธิประโยชน์บัตรทอง" ตามแผนบริหารจัดการที่วางไว้โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน
สิทธิประโยชน์บัตรทอง ด้านบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในปี 2566 นี้ สปสช. ได้เพิ่มเติมบริการเช่นกัน ได้แก่
1.การตรวจไวรัสตับอักเสบบี (HBe Ag) ในหญิงตั้งครรภ์ บริการคัดกรองธาลัสซีเมียในสามีหรือคู่ของหญิงตั้งครรภ์ทุกราย
2.บริการคัดกรองซิฟิลิสในสามีหรือคู่ของหญิงตั้งครรภ์ทุกราย
3.บริการสายด่วนเลิกบุหรี่และสายด่วนสุขภาพจิต
4.บริการคัดกรองปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
5.บริการคัดกรองมะเร็งและมะเร็งช่องปาก บริการคัดกรองผู้ป่วยโรคพันธุกรรมเมตาบอลิกด้วยเครื่อง Tandem mass spectrometry (TMS) ในเด็กแรกเกิด
6.บริการคัดกรองและค้นหาวัณโรคในกลุ่มเสี่ยงสูง และบริการตรวจยีน BRCA1/BRCA2 ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงสูงและญาติสายตรงที่มีประวัติครอบครัวตรวจพบยีนกลายพันธุ์
นอกจากนี้ สปสช. ได้ดำเนินการพัฒนาการบริหารจัดการที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการ ได้แก่ บริการโรคโควิด-19 จากเดิมที่แยกการบริการจัดการโดยใช้งบประมาณ พ.ร.ก.กู้เงินฯ ที่ปรับให้อยู่ในงบ "บัตรทอง" ที่ครอบคลุมทั้ง บริการโควิดผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน การป้องกันและการช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีฉีดวัคซีนโควิด-19 การเดินหน้ายกระดับบัตรทองอย่างต่อเนื่อง เพิ่มการเข้าถึงยา ทั้งยารักษามะเร็ง และยาที่มีส่วนผสมของกัญชา (บัญชียาหลักแห่งชาติ) เพิ่มการเข้าถึงบริการเบาหวานชนิดที่ 2 และความดันโลหิตสูงโดยปรับการจ่ายตามรายการบริการ เพิ่มสัดส่วนสมทบกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพในระดับจังหวัดตามความพร้อมแต่ละพื้นที่ และเพิ่มบริการผ่าตัดข้อเข่าและผ่าตัดต้อกระจกที่เปิดให้มีการปรับเป้าหมายตามบริบทพื้นที่เช่นกัน
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews