"หญิงไก่" งัดหลักฐานสู้ ยันไม่ได้หลอกเงินเสี่ยพันล้าน ได้มาเพราะความรัก

26 ตุลาคม 2565

"หญิงไก่" งัดหลักฐานสู้ หลังลูกเสี่ยพันล้านร้องสอบกล่าวหาตุ๋นเงิน 50 ล้าน ยันไม่ได้หลอกเงิน ได้มาเพราะความรัก

จากกรณีที่ครอบครัวของนายสุรชัย อายุ 75 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปราม เนื่องจากเชื่อว่าสาวใหญ่ไฮโซ นางลินดา (นามสมมติ) ใช้กลอุบายหลอกลวงให้นายสุรชัยจดทะเบียนสมรสด้วย และหลอกลวงทรัพย์สิน เงินสด หุ้น คอนโด ที่ดิน อาคารพานิชย์ ไปจากนายสุรชัย รวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท

หญิงไก่ งัดหลักฐานสู้ ยันไม่ได้หลอกเงินเสี่ยพันล้าน ได้มาเพราะความรัก

หญิงไก่ งัดหลักฐานสู้ ยันไม่ได้หลอกเงินเสี่ยพันล้าน ได้มาเพราะความรัก

 

ต่อมาวันที่ 24 ต.ค. 65 นางลินดา (นามสมมติ) ได้ขอเปิดเผยตัวตนซึ่งก็คือ นางศรัญญา อุปปาตะสันติ หรือ หญิงไก่ ที่เคยตกเป็นข่าวอยู่หลายข่าว เผยเหตุผลที่เปิดเผยตัวตน ระบุว่า เนื่องจากมีบางรายการข่าวและบางสำนักข่าวได้เปิดเผยชื่อของตนทั้ง ๆ ที่ตนไม่ยินยอม ตนจึงตัดสินใจเปิดตัวพร้อมชี้แจงทุกอย่างอย่างบริสุทธิ์ใจในวันนี้

ยืนยันตนมีหลักฐานเกี่ยวกับการซื้อขายทรัพย์สินระหว่างตนกับนายสุรชัย โดยทรัพย์สินที่ตนได้รับมา ได้แก่ หุ้น คอนโด และที่ดิน 100 ตร.ว. รวมมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท ส่วนที่ครอบครัวของนายสุรชัยอ้างว่าตนได้รับเงินสดและทรัพย์สินอื่น ๆ อาทิ ที่ดิน อีกรวม 30 ล้านบาท ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะที่ดินผืนดังกล่าวนายสุรชัยขายเองก่อนจะรู้จักกับตน แต่เพิ่งมาโอนที่ดินตอนรู้จักกับตนในช่วงปลายเดือน ส.ค. และทุกอย่างที่ได้มาล้วนมาจากความรัก

หญิงไก่ งัดหลักฐานสู้ ยันไม่ได้หลอกเงินเสี่ยพันล้าน ได้มาเพราะความรัก

โดยในวันจดทะเบียนสมรส นายสุรชัยยังได้เขียนระบุในตนเป็นผู้จัดการมรดกหากนายสุรชัยมีอันเป็นไป ซึ่งมีการระบุชัดเจนว่าให้ตนแบ่งทรัพย์สินให้ลูกของนายสุรชัยคนใดบ้าง

 

ขณะนี้ตนมีความเป็นห่วงนายสุรชัย เพราะตนไม่สามารถติดต่อนายสุรชัยได้ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 65 ที่ครอบครัวของนายสุรชัยรับตัวนายสุรชัยออกไป โดยขณะนี้เรื่องราวเริ่มบานปลาย อีกทั้งนายสุรชัยยังมีกำหนดการที่ต้องเดินทางไปขึ้นศาลในคดีเกี่ยวกับธุระอีกหลายครั้ง ตนรู้จักกับนายสุรชัยในช่วงเดือน เม.ย. เนื่องจากนายสุรชัยต้องการนำอาคารกับที่ดินมาจำนอง มูลค่า 70-80 ล้านบาท ส่วนตนมีหน้าที่เป็นนายหน้า แต่สุดท้ายอาคารและที่ดินของนายสุรชัยติดปัญหาทางธนาคาร ถึงอย่างนั้นนายสุรชัยก็ยังแวะวนเวียนมาหาตนที่บ้านจนเกิดเป็นความรัก

ตนกับนายสุรชัยรักกัน อีกฝ่ายเป็นคนดุแต่มีความเอาใจใส่ ชอบพาไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า และพาไปร้องเพลง ซึ่งตนกับนายสุรชัยเคยบังเอินเจอกับหญิงคนหนึ่งที่อยู่กินกับนายสุรชัยมาตั้งแต่ปี 21 แบบไม่จดทะเบียนสมรส โดยหญิงคนดังกล่าวพูดขึ้นว่า จะไปไหนก็ไป แก่ป่านนี้แล้วแสดงให้เห็นว่าครอบครัวของนายสุรชัยไม่ได้ในดีนายสุรชัยแม้แต่น้อย

หญิงไก่ งัดหลักฐานสู้ ยันไม่ได้หลอกเงินเสี่ยพันล้าน ได้มาเพราะความรัก

ทั้งนี้ในวันที่ 25 ต.ค. 65 ตนจะเดินทางไปยังกองบังคับการปราบปราม เพื่อแจ้งความว่านายสุรชัย สามีของตนหายตัวไป ซึ่งหากครอบครัวของนายสุรชัยยืนยันว่านายสุรชัยยังมีความเป็นอยู่ที่ดี ก็ขอให้ทางครอบครัวพาตัวนายสุรชัยออกมาแสดงตัว ส่วนการหย่า ตนก็อยากพบกับนายสุรชัยก่อน อีกทั้งการจดทะเบียนหย่าไม่มีใครสามารถทำแทนกันได้ ต้องให้เจ้าตัวมาดำเนินการเองเท่านั้น โดยตนเชื่อว่าการจดทะเบียนหย่าจะเกิดขึ้น เพราะนายสุรชัยรักลูกของตัวเอง แต่ต้องมีการตกลงในรายละเอียดแล้วเคลียร์ใจกันเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นเสียก่อน ตนไม่เคยคิดฟ้องร้องใคร แต่ครอบครัวของนายสุรชัยโจมตีตนด้วยคพพูดที่รุนแรง ทำให้สังคมมองว่าตัวเองเป็นคนดี เช่น บอกกับสังคมว่าอย่าไปคบคนนี้ ตนก็คงต้องพิจารณาต่อไป ซึ่งหากตนหายตัวไปก็ขอให้ทุกคนรับรู้เอาไว้ว่าตนถูกครอบครัวของนายสุรชัยทำร้าย เพราะที่ผ่านมาตนเคยถูกขู่อุ้มฆ่ามาแล้ว ทั้งมีอาวุธและไม่มีอาวุธ

ทั้งนี้กรณีการออกรถยี่ห้อ BMW โดยนางศรัญญาให้ข้อมูลว่า รถคันดังกล่าวราคาประมาณ 3.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นการออกค่าใช่จ่ายกันคนละครึ่ง

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews