ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์และคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) "บุกถึงแหล่งยึดไส้กรอกจีนสุดฮิต 1,440 แท่ง และของกลาง อีก 20 รายการ" กรณีตรวจสอบแหล่งขายผลิตภัณฑ์อาหารนำเข้าจากประเทศจีน ตรวจยึดของกลางรวมกว่า 1,861 ชิ้น
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจากมีข่าวผ่านทางสื่อออนไลน์ว่า หน่วยงาน DLD-Quarantine and Inspection K9 unit ของกรมปศุสัตว์ได้ทำการตรวจยึดสินค้าไส้กรอกหมูลักลอบนำเข้าจากประเทศจีนโดยซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งก่อนหน้านี้กรมปศุสัตว์ได้ยกระดับการป้องกันโรคระบาดสัตว์เข้าประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เพื่อป้องกันการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) ในทวีปเอเชีย
จึงไม่อนุญาตให้นำเข้าผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ เนื่องจากเชื้อโรคดังกล่าวสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมหรือซากสัตว์ได้นาน หากมีการนำขนส่งไปมาอาจเกิดความเสี่ยงในการ ปนเปื้อนและแพร่ระบาดของเชื้อโรค จนก่อให้เกิดโรคระบาดสัตว์ ส่งผลให้มีการแพร่กระจายไปในที่ต่างๆ หากเกิดการระบาดในประเทศอาจเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม
โดยไส้กรอกดังกล่าวเป็นที่นิยมนำมาประกอบอาหารสุกี้สไตล์จีน แบบหมาล่าสายพาน ที่มีผู้คนนิยมรับประทานกันในขณะนี้ ร้านเหล่านี้มักจะมีเนื้อสัตว์ต่างๆ ผลิตภัณฑ์แปรรูปและน้ำซุปจากประเทศจีน มาประกอบอยู่ในเมนูด้วย ไส้กรอกชนิดดังกล่าวจะมีลักษณะแบบแท่งน้ำหนัก 40 กรัม ไม่แช่เย็น บรรจุในถุงพลาสติกเหนียวอย่างดี สามารถรับประทานได้ทันทีหรือนำเข้าไมโครเวฟ เก็บรักษาไว้ในที่แห้ง มีอายุการเก็บรักษา 180 วัน หรือ 6 เดือน ปกติไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย ส่วนมากมีขายตามตลาดชายแดน เช่น สปป.ลาว และกัมพูชา
จากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงนำมาสู่การมาตรการเชิงรุก โดยมีการติดตามเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อาหารที่มีความเสี่ยงต่อผู้บริโภค ที่อาจซื้อมารับประทานและได้รับอันตรายจากสารปนเปื้อน หรือเชื้อโรคที่แฝงมา จนทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ ต่อมาได้รับการประสานจากกรมปศุสัตว์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้ทำการตรวจสอบแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไส้กรอก และอาหารนำเข้าจากประเทศจีนย่านประชาชื่น กรุงเทพมหานคร จึงทำการสืบสวน พบว่ามีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารจากประเทศจีนจริง
ต่อมา วันที่ 18 กรกฎาคม 2566 เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับ กรมปศุสัตว์ และอย. เข้าทำการตรวจค้นอาคารแห่งหนึ่ง ย่านถนนถนนประชาชื่น แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
ผลการตรวจค้น พบ นางสาวจินดามณี (สงวนนามสกุล) แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานดูแลของสถานที่ดังกล่าว ตรวจยึดผลิตภัณฑ์ไส้กรอกจีน ยี่ห้อ "Shuanghui" จำนวน 1,440 แท่ง และผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 รวม 20 รายการ ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดี โดยของกลางที่ยึดในครั้งนี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจาก ประเทศจีนทั้งหมด
ภก. เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ไส้กรอกหมูที่ลักลอบนำเข้ามานั้น เป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่ได้ขอเลขสารบบอาหารและไม่แสดงฉลากตามกฎหมาย การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. อาหาร พ.ศ.252 กรณีผู้นำเข้า หากนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และหากพบการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ไม่แสดงข้อมูลสำคัญ ได้แก่ เลขสารบบอาหาร ผู้ผลิต
ส่วนประกอบ วิธีรับประทาน จะมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างอาหารเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ หาจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค วัตถุกันเสีย และสี ณ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากพบสารปนเปื้อน หรือจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จัดเป็น "อาหารไม่บริสุทธิ์" ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายมีโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ