จากกรณี น.ส.ชลลดา มุธุรงศ์ หรือน้องนุ่น อายุ 27 ปี หายไปตัวอย่างเป็นปริศนา เมื่อกลางดึกของวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากกลับมาจากฉลองวันเกิดของสามี ซึ่งทางกลุ่มเพื่อนได้พากันโพสต์ตามหา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ก่อนที่ต่อมาได้พบโครงกระดูกมนุษย์ถูกเผา ใน ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
ซึ่งเป็นจุดใกล้เคียงกับสัญญาณพิกัด GPS โทรศัพท์มือถือสุดท้าย ของ น.ส.ชลลดา โดยที่ข้อมือพบสร้อยคอทองคำ คล้ายกับที่น้องนุ่น สวมใส่ในวันที่หาย กระทั่ง นายศิริชัย รักทอง สามีน้องนุ่น รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือสังหารภรรยาตนเอง สาเหตุจากทะเลาะกัน
ล่าสุด นายศิริชัย ได้ยกมือไหว้ขอขมาทาง น.ส.เพ็ญ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.ชลลดาที่ได้รับไหว้ขอขมา โดยมีอาการร้องไห้เศร้าโศกเสียใจอยู่ตลอดเวลา ตอนหนึ่ง นายศิริชัย กล่าวขอขมาแม่น้องนุ่น ว่า ไม่ว่าแม่จะให้อภัย หรือไม่ให้อภัย ผมก็จะขอชดใช้กับทุกสิ่งที่อยู่ ที่ผมได้ทำพลาดลงไปแล้ว
โดยน.ส.เพ็ญ ถามว่า ทำกับลูกแม่ทำไม นายศิริชัย กล่าวว่า มันเป็นเหมือนแค้นสะสมมาหลายอย่าง ก็ตามที่แม่ได้ยิน เวลาผมคุยกับเขา ผมจะเป็นฝ่ายง้อตลอด แต่ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหน เขาก็ไม่เคยมองว่าผมดี อคติที่เขาเอามาพูดซ้ำอีก เรื่องที่เคยเคลียร์กันไปแล้วเขาก็เอามาทะเลาะซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งโมโห สะสม เก็บกดสะสมมา
เขาไม่ยอมให้อภัยผมสักครั้ง ไม่ว่าผมจะทำดีแค่ไหน พูดอะไรไป ก็ผิดใจเขาตลอด ผมไม่เคยคิดจะฆ่า หรือทำให้เขาตาย แต่ด้วยความเมา และโมโห เลยทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นต่อให้ผมออกมาจากคุก ผมก็ไม่กล้าสู้หน้าครอบครัวนุ่นและครอบครัวผม ไม่มีหน้าไปเจอลูกตัวเอง ผมเลยมาบอกลาทุกคน ไม่ต้องให้เขาจำผมก็ได้ บอกว่า พ่อของเขาตา ยไปแล้วก็ได้