ใช้รถต้องรู้! การทางพิเศษฯ ยืนยัน 1 มีนาคมนี้ ปรับค่าทางด่วนขึ้น 5 บาท

25 กุมภาพันธ์ 2567

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ยืนยันแล้ว 1 มีนาคม 2567 ขึ้นค่าทางด่วน ฉลองรัช-บูรพาวิถี หลังเลื่อนขึ้นค่าผ่านทางครบ 6 เดือนแล้ว ระบุเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญากองทุน TFFIF ที่ต้องปรับขึ้นทุก 5 ปี

ใช้รถต้องรู้! การทางพิเศษฯ ยืนยัน 1 มีนาคมนี้ ปรับค่าทางด่วนขึ้น 5 บาท

ใช้รถต้องรู้! การทางพิเศษฯ ยืนยัน 1 มีนาคมนี้ ปรับค่าทางด่วนขึ้น 5 บาท

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กทพ.จะปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบรูพาวิถี ตามเงื่อนไขสัญญากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย TFFIF ที่จะปรับขึ้น ทุก 5 ปี โดยจะปรับอัตราค่าผ่านทางในวันที่ 1 มี.ค. 2567 หลังจากที่ชะลอการปรับขึ้นค่าผ่านทางตามสัญญา มาตั้งแต่ 1 ก.ย. 2566 เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ใช้ทางพิเศษและประชาชน ทั้งนี้ การปรับขึ้นค่าผ่านทางดังกล่าว ยังคิดคำนวณตามดัชนีผู้บริโภค (CPI) ที่จะปรับขึ้นประมาณ 10% หรือประมาณ 5 บาท โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ใช้รถต้องรู้! การทางพิเศษฯ ยืนยัน 1 มีนาคมนี้ ปรับค่าทางด่วนขึ้น 5 บาท

อัตราค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช
- รถ 4 ล้อ ​ราคาเดิม 40 บาท ​ปรับเป็น 45 บาท

- รถ 6-10 ล้อ ​ราคาเดิม 60 บาท ​ปรับเป็น 65 บาท

- รถมากกว่า 10 ล้อ ​ราคาเดิม 80 บาท ​ปรับเป็น 90 บาท

ยกเว้นด่านฯ รามอินทรา 1 และด่านฯ สุขาภิบาล 5-2

- รถ 4 ล้อ​ราคาเดิม 20 บาท ​ไม่มีการปรับขึ้น

- รถ 6-10 ล้อ​ราคาเดิม 30 บาท​ปรับเป็น 35 บาท

- รถมากกว่า 10 ล้อ​ราคาเดิม 40 บาท​ปรับเป็น 45 บาท

อัตราค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี
รถ 4 ล้อ

- กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะใช้อัตราค่าผ่านทางเดิม

- กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 5 บาท สูงสุดไม่เกิน 10 บาท โดยคิดตามระยะทาง

รถ 6-10 ล้อ

- กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะปรับขึ้น 5 บาท

- กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 10 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 บาท   โดยคิดตามระยะทาง

รถมากกว่า 10 ล้อ

- กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะปรับขึ้น 5 บาท

- กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 10 บาท สูงสุดไม่เกิน 25 บาท โดยคิดตามระยะทาง
 

การปรับราคาในครั้งนี้ โดยเฉพาะทางพิเศษฉลองรัช ที่ไม่ได้ปรับขึ้นค่าผ่านทางมาเป็นระยะเวลา 15 ปีแล้ว แม้ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ การบำรุงรักษาทางพิเศษเพื่อให้อยู่ในสภาพที่ดีจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีก็ตาม ซึ่ง กทพ. ขอขอบพระคุณประชาชนผู้ใช้ทางพิเศษ ที่ให้การสนับสนุน กทพ. ด้วยดีมาโดยตลอด