ตาเล่านิสัย "ลูกแทงพ่อเลี้ยง" หลังทำร้ายแม่ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้

20 มิถุนายน 2567

ตาผู้ก่อเหตุ เล่านิสัย "ลูกแทงพ่อเลี้ยง" เสียชีวิต หลังเห็นทำร้ายแม่ คาดอาจเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้

จากกรณี "ลูกแทงพ่อเลี้ยง" เสียชีวิต หลังตำรวจสน.ลำผักชี รับแจ้งเหตุชายถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิต ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง บ้านเอื้ออาทรหลังคาแดง แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น บริเวณถนนหน้าบ้านดังกล่าว พบผู้เสียชีวิตนาย อภิรักษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี 

 

ตาเล่านิสัย \"ลูกแทงพ่อเลี้ยง\" หลังทำร้ายแม่ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้

 

สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกแทงคอใต้คาง และแขนซ้ายรวม 3 แผล นอนหงายจมกองเลือด ในตัวพบยาไอซ์ประมาณ 1 กรัม ภายในบริเวณห้องโถงมีร่องรอยการต่อสู้ มีคราบเลือดและอาวุธมีดประมาณ 7 นิ้วเปื้อนเลือดตกอยู่ โดยผู้ก่อเหตุคือนายภานุพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ทำงานผู้ช่วยทำหมันหมาแมวฟรี ของมูลนิธิซอยดอก ย่านถนนติวานนท์ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของผู้ตาย ยืนรอมอบตัวอยู่ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมายังสน.ลำผักชี

 

เมื่อผู้สื่อข่าวจึงได้ลงมาพื้นที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่ 201/607 ซอยมีสุข 12 บ้านเอื้ออาทรหลังคาแดง แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพฯ พบคราบเลือดยังอยู่หน้าริมถนน มีร่องรอยการตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยสภาพบ้านเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น แต่ไม่พบผู้อยู่อาศัยเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนัดหมายให้มาสอบปากคำเพิ่มเติม 

ผู้สื่อข่าวจึงตามมายังสน.ลำผักชี  ได้พบคุณตาผู้ก่อเหตุ นาย เรวัณ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี เล่าว่า ตัวเด็กผู้ก่อเหตุจะออกไปทำนายนานๆจะกลับมาบ้านที เพิ่งทำงานเกี่ยวกับหมาแมวทำอยู่มูลนิธิแห่งหนึ่ง ส่วนตัวไม่ได้สุงสิงอะไรกับหลานเลย ซึ่งตนได้ยินข่าวที่ออกไปก็เลยมาหาหลานชายที่โรงพัก ซึ่งคุณตาได้เลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เด็กส่วนตัวเป็นคนนิสัยดีมาก แล้วยังอยู่ในสังคมศาสนาอิสลามด้วย ซึ่งพ่อเด็กกับแม่เด็กแยกทางกันตั้งแต่พ่อเด็กเสียชีวิต

 

จากนั้นพลก็เลี้ยงหลานมาดูแลเทคแคร์อย่างดีเลี้ยงดูอย่างดี ส่วนตัวไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ แต่มาพอมาฟังเรื่องราวถึงได้คิดออก เป็นตนตนก็ทนไม่ได้เหมือนกันที่มาทำร้ายแม่ของตัวเอง ส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าน้องอยู่ดีๆตัดสินใจแบบนี้ได้ยังไง ส่วนตัวก็ยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ตนก็ได้เข้าไปเยี่ยมหลานชายแล้วก็บอกให้หลานชายสู้และก้มตาก้มตา นี่คือบททดสอบของชีวิต อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานๆจะกลับมาบ้านทีแล้วเจอแบบนี้ และเมื่อก่อนได้ข่าวว่าหลานชายก็เคยโดนผู้ตายทำร้ายบ้าง ซึ่งตอนเกิดเหตุถ้าหลานชายไม่มาตนก็ต้องเป็นฝ่ายที่มาเอง

ซึ่งส่วนตัวน้องตอนนี้ก็สำนึกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว อาจเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และกับอารมณ์ที่ไปทำงานมาหลายวันและกลับมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งส่วนตัวก่อนเกิดเหตุตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นและไม่รู้ว่าหลานพบเจอกับอะไรบ้าง และก็ไม่ได้ถามหลานเพราะไม่ใช่เรื่องที่จะต้องถาม

 

ส่วนตัวเคยพบเจอกับผู้ตายนิสัยของผู้ตายจะเป็นคนแบบนี้ เคยมีครั้งหนึ่งความมีดจะมาฟันคนขับรถของตน จะเข้ามายุ่งเรื่องครอบครัว แต่ส่วนตัวที่เข้าไปจะเข้าไปไกล่เกลี่ย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและที่ผ่านมาคงใช้คำว่ารักกับลูกสาวตนไม่ได้ อาจจะอยู่เพราะจำเป็น อยู่เพราะอะไรตนก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนแรกอาจจะเริ่มจากรัก ตอนหลังๆเราก็ไม่รู้แล้ว