ระวัง 5 ข้อเสียจากการกิน "เสาวรส" ที่คุณอาจคิดไม่ถึง

แน่นอนว่าอะไรที่มากไปมันไม่ดี อย่างเช่นการกินผลไม้ที่ได้ชื่อว่ามากประโยชน์อย่าง "เสาวรส" ทุกคนอาจเคยได้ยินแต่สรรพคุณในทางบวก แต่รู้หรือไม่ถ้าคุณกินเสาวรสมากเกินไป วันนี้ทางสายกินรวมเอา 5 ข้อเสียที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณถ้าหากกิน "เสาวรส" มากเกินปริมาณที่เหมาะสม หลายๆอย่างคุณอาจคาดไม่ถึง

5 ข้อเสียจากการกิน "เสาวรส" ที่คุณอาจคิดไม่ถึง  

1.กินเสาวรสมากเสี่ยงน้ำตาลเกิน เสาวรส 100 กรัม (ประมาณ 6 ผล) มีน้ำตาลมากถึง 11.2 กรัม (ใน 1 วันเราควรกินน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัม) ซึ่งเวลาที่เรากินเสาวรสกันเยอะๆ โดยส่วนใหญ่ก็จะผ่าครึ่งกินกันแบบเพลินๆ หรือบางคนอาจแคะเนื้อเสาวรสออกมารวมกันเยอะๆ ก่อนจะปรุงรสและกินจนหมด ทำให้น้ำตาลเกินได้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งการกินผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงนั้นส่งผลเสียต่อผู้ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ตลอดไปจนถึงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ด้วยเช่นเดียวกัน

2.เกิดอาการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะเสาวรสนั้นเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว มีค่าความเป็นกรดสูง การกินเสาวรสเยอะมากๆ อาจทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้เกิดการระคายเคือง ทำให้มีอาการปวดท้อง ปวดบิดหรืออาเจียนได้ โดยเฉพาะคนที่กินเสาวรสในขณะที่ท้องว่างก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้ปวดท้อง รู้สึกไม่สบายท้อง

3.อาจกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ยาง (Latex allergy) การกินเสาวรสเยอะมากๆ อาจกระตุ้นอาการแพ้ยางในผู้ป่วยบางรายได้ นั่นเป็นเพราะโปรตีนที่พบในเสาวรสมีลักษณะโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับยาง จึงอาจทำให้ผู้ที่มีประวัติแพ้ยางเกิดอาการแพ้ชนิดเฉียบพลันได้ ทำให้หายใจติดขัด ไอ น้ำมูกไหล รู้สึกระคายคอ คันคอ หรือหากแพ้อย่างรุนแรงก็อาจส่งผลอันตรายต่อชีวิตได้

4.อันตรายจากไซยาไนด์ บริเวณเปลือกและลำต้นของเสาวรสมีสารประกอบของไซนาไนด์ ซึ่งหากรับประทานเข้าไปมากๆ ก็อาจทำให้สารชนิดนี้เข้าไปสะสมในร่างกายจนเป็นอันตรายได้ ดังนั้นแล้วควรกินแค่เนื้อและเมล็ดของเสาวรส ไม่ควรกินเปลือกหรือส่วนอื่นๆ

5.อาจทำให้ท้องเสีย ถ่ายท้อง ด้วยความเป็นกรดและมีสัมผัสเป็นเนื้อเมือกลื่น การกินเสาวรสมากๆ อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย ถ่ายท้องไม่หยุดได้ โดยเฉพาะคนที่กินเสาวรสตอนท้องว่างและกินครั้งละมากๆ จนทำให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะขาดน้ำและช็อกได้