xinhuathai รายงานการเฝ้าติดตามอนาคต (Monitoring the Future – MTF) ระดับชาติของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในสหรัฐฯ ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพุธ (8 ก.ย.) ระบุว่าปริมาณการใช้กัญชารายวันของนักศึกษาในสหรัฐฯ ปี 2020 พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 4 ทศวรรษ
ปริมาณการใช้กัญชารายวัน ซึ่งหมายถึงการใช้กัญชา 20 ครั้งขึ้นไปในระยะ 30 วัน ของหมู่นักศึกษา อายุ 19-22 ปี เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 7.9 ในปี 2020 สูงขึ้นถึง 3.3 จุดในรอบ 5 ปี ขณะตัวเลขการใช้กัญชารายวันของกลุ่มคนช่วงวัยเดียวกันที่ไม่ใช่นักศึกษาอยู่ที่ร้อยละ 13 ต่ำลงมากจากสถิติสูงสุดเมื่อปี 2019 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 15
ขณะเดียวกันสถิติการใช้กัญชารายปีของกลุ่มนักศึกษาอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 44 เมื่อนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1980 และตัวเลขดังกล่าวสำหรับกลุ่มคนช่วงวัยเดียวกันที่ไม่ใช่นักศึกษาอยู่ที่ร้อยละ 43
การค้นพบสำคัญประการที่ 2 คือปริมาณการใช้สารหลอนประสาท อาทิ แอลเอสดี เห็ดขี้ควาย และสารที่ทำให้ประสาทหลอนชนิดอื่นๆ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมู่นักศึกษา ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 8.6 ต่อปี ระหว่างปี 2019-2020 นับเป็นตัวเลขสูงสุดตั้งแต่ปี 1982 ส่วนสถิติของคนช่วงวัยเดียวกันที่ไม่ใช่นักศึกษาอยู่ที่ร้อยละ 9.8 สูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ
การค้นพบสำคัญประการที่ 3 คือปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนักศึกษาลดลงในปี 2020 ซึ่งอาจสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของมึนเมาในรอบ 30 วัน ลดลงอย่างมากระหว่างปี 2019-2020 อยู่ที่ร้อยละ 56 และร้อยละ 28 ตามลำดับ
ปริมาณการสูบบุหรี่ในคนช่วงวัยข้างต้นยังลดลงต่อเนื่องในระยะยาว โดยปริมาณการสูบบุหรี่ในรอบ 30 วันของกลุ่มนักศึกษาลดต่ำเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ร้อยละ 4.1 ในปี 2020 ต่ำลงจากปี 2019 ถึง 3.8 จุด ส่วนตัวเลขดังกล่าวของผู้ที่ไม่ใช่นักศึกษาอยู่ที่ร้อยละ 13 ซึ่งถือเป็นตัวเลขต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
อนึ่ง รายงานฉบับนี้ตามเก็บข้อมูลของนักศึกษาและกลุ่มคนช่วงวัยเดียวกันที่ไม่ใช่นักศึกษาเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี 1980 โดยผลการศึกษาฉบับใหม่อ้างอิงข้อมูลจากผลสำรวจช่วงวันที่ 30 มี.ค. 2020 หลังจากสหรัฐฯ ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อควบคุมโรคโควิด-19 เพียงไม่นาน จนถึงวันที่ 30 พ.ย. 2020
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews