ด้วยยุคสมัยที่หลายๆ แหล่งมีความรู้ในการผลิตของใช้ขึ้นได้เอง ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ยี่ห้อใหม่มากมาย หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น "น้ำยาล้างจาน" ซึ่งเป็นสิ่งที่มีทุกบ้านต้องใช้ ดังนั้นการใช้น้ำยาล้างจาน แบบผิดๆ อาจเป็นอันตรายมากกว่าเดิม เพราะเหมือนกับการดื่มสารพิษเข้าไป และมีสิทธิ์ถึงชีวิตได้
เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งจะมีการเตือนถึง 5 นิสัยกการใช้น้ำยาล้างจานที่เป็นอันตรายที่ควรเลิกทำ เพื่อปกป้องสุขภาพและชีวิตของตัวเองและครอบครัว ซึ่งมี 5 พฤติกรรมเสี่ยงดังต่อไปนี้
1.ล้างจานอย่างผ่านๆ
บางคนอ้างจะบอกว่าไม่มีเวลาในการล้างจานจึงมักล้างแบบผ่านๆ แค่ไม่เห็นฟองก็คิดว่าล้างสะอาดแล้ว แต่จริงๆ แล้ว ด้วยประสาทสัมผัสของเรา มันยากที่จะมองเห็นสารเคมีที่ตกค้างอยู่บนจานชามหากเพียงแค่ล้างผ่านๆ ดังนั้นเพื่อกำจัดสารเหล่านี้ออกไป จำเป็นต้องล้างด้วยน้ำสะอาดให้ละเอียด 2-3 ครั้งหลังจากล้างน้ำยาล้างจานแล้ว
2. แช่จานชามในน้ำยาล้างจานนานๆ
บางคนคิดว่าจานที่สกปรก ควรแช่ในน้ำยาล้างจานเจือจางเพื่อให้ล้างออกได้ง่ายขึ้น การทำเช่นนี้กลับเพิ่มความเสี่ยงที่สารเคมีจะซึมเข้าสู่อุปกรณ์การกินและการทำอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตะเกียบและช้อนที่ทำจากวัสดุที่ดูดซับได้ เช่น ไม้ไผ่หรือไม้ธรรมชาติ เพราะวัสดุเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะดูดซับสารเคมีมากกว่า
3. ไม่เจือน้ำหรือใช้น้ำยาล้างจานมากเกินไป
ความเชื่อที่ว่าการเทน้ำยาล้างจานเข้มข้นลงบนจานจะช่วยให้ล้างออกได้ดีขึ้น แต่จริงๆ แล้วหลายคนคิดผิด เพราะตามที่นักวิจัยชี้ให้เห็น การไม่เจือน้ำยาล้างจานไม่เพียงแต่ทำให้สิ้นเปลือง แต่ยังมีความเสี่ยงที่สารเคมีจากน้ำยาจะตกค้างอยู่บนจาน เมื่อเราใช้จานในครั้งถัดไป สารเหล่านี้อาจเข้าไปติดอาหารและถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งในระยะยาวอาจก่อให้เกิดโรค
ดังนั้น คำแนะนำคือ ควรใช้จานใบเล็กเพื่อนำน้ำยาล้างจานไปเจือจางกับน้ำ และคนให้เข้ากันจนเกิดฟองก่อนใช้งาน หรือสามารถหยดน้ำยาล้างจานลงบนฟองน้ำที่ชุบน้ำและทำให้เกิดฟองในจานแยกแล้วใช้ขัดล้าง
อีกทั้ง บางครั้งเมื่อเห็นจานชามสกปรกมาก บางคนอาจกลัวว่าจะล้างไม่สะอาดจึงเลือกใช้ปริมาณน้ำยาล้างจานมากกว่าปกติ แต่ผลของการทำเช่นนี้คือจะล้างสารเคมีออกได้ยาก สารเหล่านี้อาจเข้าสู่เนื้ออาหารเมื่อคุณใช้จานชามนั้นอีกครั้งถ้าไม่ล้างให้สะอาด
4. ใช้น้ำยาล้างจานกับจานชามที่แตก
การใช้น้ำยาล้างจานเพื่อทำความสะอาดถ้วย ชาม หรือภาชนะเซรามิกที่มีรอยแตก มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้สารเคมีตกค้างอยู่บนผิวของรอยแตกเหล่านั้น แม้จะล้างด้วยน้ำสะอาดอย่างละเอียดเพียงใดก็ตาม
5. ใช้น้ำยาล้างจานที่ไม่มีแหล่งที่มาชัดเจน
ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานที่ไม่มีแหล่งที่มาชัดเจนอาจมีสารพิษที่ไม่อนุญาตให้ใช้ หลายคนเชื่อว่าสิ่งนี้ทำให้มือแห้งและหยาบกร้านเพียงเท่านั้น แต่ผลงานวิจับหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า สารพิษในน้ำยาล้างจานที่ไม่มีแหล่งที่มาชัดเจน สามารถซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเดินอาหารและระบบหายใจ ทำให้เกิดมะเร็งและโรคอันตรายอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานที่มีคุณภาพและมีแหล่งที่มาชัดเจน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพ
ข้อมูลจาก SOHA