ยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่องสำหรับประเด็นการเมืองร้อนของไทย หลังจากเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า
วันที่ 18 ก.ค. 2566 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา นัดหารือวิป 3 ฝ่าย โดยตนจะเข้าไปเรียนให้ทราบว่าทางส.ว.มีความเห็นทางกฎหมาย ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 กำหนดชัดเจนว่าญัตติเสนอซ้ำไม่ได้ เว้นแต่เสนอสมัยประชุมหน้า ถ้าญัตติเป็นแบบเดิมเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะด้วย 8 พรรคร่วม หรือ 7 หรือ 9 พรรคร่วมเป็นผู้เสนอ ก็ถือว่าสาระไม่เปลี่ยนแปลง
นายสมชาย กล่าวว่า "ถ้าวันที่ 19 ก.ค.นี้ เสนอแบบดังกล่าวคงต้องมีการอภิปรายกันว่าดำเนินการไม่ได้ เพราะเกรงว่ารัฐสภาจะดำเนินการขัดต่อกฎหมาย และถ้าโหวตพิธาผ่านก็จะถูกร้องว่าการกระทำนั้นไม่ชอบ ยืนยันอีกครั้งว่าญัตติที่เสนอเดิมให้นายพิธาเป็นนายกฯถือว่าตกไปแล้ว แต่ถ้าเสนอชื่อคนอื่นถือว่าเป็นญัตติใหม่"
ซึ่งล่าสุด วันที่ 18 ก.ค. 2566 นายสมชาย แสวงการ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบการประชุมร่วมกัน เผยท่าทีส.ว. เห็นตรงกันว่าญัติติชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ตกไปแล้ว
"ไม่มีอะไร เราเดินตามข้อบังคับข้อที่ 41 ต้องเดินตามกฎหมายว่าญัตติที่เสนอได้จบไปแล้ว ส่วนญัตติอื่นที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ติดใจอะไร"
เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันใช่หรือไม่ว่าเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ซ้ำไม่ได้
นายสมชาย กล่าวว่า "ทาง ส.ว.มีความเห็นเช่นนั้นว่าญัตติตกไปแล้ว ส่วนในที่ประชุมมีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร และจะมีมติชี้ขาดอย่างไร ต้องไปคุยในรัฐสภา"